ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ศุลกากร จับรถบรรทุก 2 คัน ลักลอบขนมะพร้าวจากประเทศอินโดนีเซีย 25.5 ตัน เข้ามาได้ที่บริเวณถนนเพชรเกษม อ.ทับสะแก และ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยอมรับสารภาพนำไปส่งโรงงานกะทิกล่อง
วันนี้ (4 มี.ค.) นายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 นำเจ้าหน้าที่ตรวจยึดมะพร้าวลักลอบจากประเทศอินโดนีเซีย ตามมาตรการปราบปรามมะพร้าวเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลกระทบให้ราคามะพร้าวตกต่ำ และเกษตรกรในประเทศได้รับความเดือดร้อน
โดยเจ้าหน้าที่ได้จับรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 71-1611 เพชรบุรี ตัวท้ายรถบรรทุกปิดทึบเหมือนรถห้องเย็น เมื่อเปิดประตูพบเป็นมะพร้าวปอกเปลือก ลักษณะลูกเล็ก จำนวน 13.5 ตัน เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอีกรายเป็นรถ 10 ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 70-5728 นครปฐม จับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีมะพร้าวปอกเปลือก จำนวน 12 ตัน มีผ้าใบปิดคลุมมิดชิด
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ทราบว่า รถบรรทุกทั้ง 2 คัน มีนายทุนว่าจ้างให้ไปบรรทุกมะพร้าวนำเข้าจากอินโดนีเซีย ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อไปส่งยังโรงงานแปรรูปกะทิกล่อง เนื่องจากราคาถูกกว่ามะพร้าวในประเทศ ขณะที่พิธีการทางศุลกากรนำเข้าได้แค่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง จึงมีการแอบลักลอบผ่านชายแดนเข้ามา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงยึดรถทั้ง 2 คันพร้อมของกลางมาไว้ที่ด่านศุลกากรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินทางกฎหมายต่อไป
ทางด้าน นายสันทัด เดชเกิด เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว กล่าวว่า การจับกุมมะพร้าวเถื่อนจะช่วยให้ราคามะพร้าวในประเทศสูงขึ้น เพราะไม่มีมะพร้าวนอกมากดราคามะพร้าวไทย อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของมะพร้าวอินโดนีเซียไม่เหมือนมะพร้าวไทย มีขนาดลูกเล็กกว่า คุณภาพเนื้อมะพร้าว น้ำกะทิ ไม่มีคุณภาพ ปริมาณไขมันต่ำ ความหอมหวานมันไม่มี ประเทศต้นทางขายมะพร้าวเป็นการชั่งกิโลกรัม เพราะขนาดลูกที่ไม่เท่ากัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง ไม่ใช้การนับลูกเหมือนมะพร้าวไทย ซึ่งขนาดลูกใหญ่กว่า