ลำปาง - เจ้าของรถ 6 ล้อหนุ่มลำปาง ถามใครจะรับผิดชอบ!? หลัง ตร.ล่อซื้อ-ไล่ล่าแก๊งค้ายา จนเก๋งผู้ต้องหาชน 6 ล้อพังเสียหายเกือบครึ่งแสน แถมบอกให้ไปฟ้องค่าเสียหายจากผู้ต้องหาเอง
นายชัยยุทธ ปินตา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 338 หมู่ที่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูสภาพความเสียหายของรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-4579 ลำปาง ที่ถูกรถเก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กม 5580 ลำปาง ชนจนเสียหาย
หลังจากที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.ลำปาง ขับรถไล่ล่าติดตามรถเก๋งคันดังกล่าวที่ขับหนีสุดชีวิตมาจากทางบ้านใหม่มงคล อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อถึงแยกก็ไม่หยุดได้ขับรถพุ่งออกจนชนเข้ากับรถบรรทุก 6 ล้อซึ่งวิ่งมาทางตรงจนได้รับความเสียหาย เบื้องต้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นบาท และจากเหตุการณ์ดังกล่าว จนท.สามารถควบคุมตัวผู้หญิง 1 คน อายุประมาณ 41 ปี พร้อมยาบ้าของกลางได้กว่า 600 เม็ด
นายชัยยุทธ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบ่ายวันที่ 25 ก.พ. ขณะที่ตนขับรถบรรทุก 6 ล้อมาจากทางบ้านห้วยรากไม้ ซึ่งเป็นทางตรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุสี่แยกบ้านใหม่มงคล ใกล้กับวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ หมู่ที่ 10 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ รถเก๋งคันดังกล่าวซึ่งถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดไล่ติดตามมาจากทางบ้านใหม่มงคล ก็พุ่งออกมาชนกับรถของตนเองจนได้รับความเสียหายทั้งคู่
“ตอนนั้นตกใจมาก พอเห็นตำรวจจับกุมผู้ต้องหาจึงทราบว่าตำรวจไล่ติดตามเครือข่ายค้ายาเสพติด แต่หลังจากจับแล้วก็นำผู้ต้องหาออกไปจากที่เกิดเหตุทันที โดยไม่แสดงความรับผิดชอบหรือบอกอะไรเลย โยนให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ เข้ามาจัดการ ซึ่งผมก็ถามว่าใครจะรับผิดชอบ พนักงานสอบสวนบอกว่าผมต้องตั้งทนายไปฟ้องร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีซึ่งเป็นผู้ต้องหาเอาเอง ทำให้ผมเครียดเพราะลำพังค่างวดรถก็จะไม่มีส่งแล้ว”
ต้นเหตุมาจากตำรวจไล่กวดติดตามผู้ต้องหา ส่วนตนคือชาวบ้านที่ใช้เส้นทางตามปกติต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยหรือ และถ้าหากวันเกิดเหตุรถที่ขับมาไม่ใช่รถบรรทุกใหญ่อย่างของตน แต่เป็นรถจักรยานยนต์ คงต้องมีคนตายหรือเจ็บหนักอย่างแน่นอน แล้วถ้าหากเป็นเช่นนั้นชาวบ้านจะถามหาความรับผิดชอบจากใคร
ด้านนายวิฒน์ ปินตา อายุ 46 ปี น้องชายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ส่วนตัวยอมรับว่าตำรวจทำตามหน้าที่ ซึ่งต้องไล่ติดตามผู้ต้องหายาเสพติด แต่ควรจะต้องวิเคราะห์เหตุการณ์และมียุทธวิธีมากกว่านี้ ว่าในที่ชุมชนสามารถทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน นี่ถ้าหากเป็นช่วงที่นักศึกษาเลิกเรียน ตนไม่อยากคิดเลยว่าจะวินาศสันตะโรแค่ไหน อาจจะมีคนตาย คนเจ็บหลายคนด้วยซ้ำ
“ที่ช้ำใจที่สุดคือ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนแนะนำให้พี่ชายไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ต้องหาคู่กรณีเอง ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะต้องติดคุกแล้วจะไปเรียกร้องอย่างไร เขาจะสามารถจ่ายได้ไหม ทั้งที่สาเหตุเกิดจากตำรวจขับรถไล่ล่าผู้ต้องหา แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ หรือแม้แต่คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ นี่แสดงว่าต่อไปหากตำรวจยังทำแบบนี้อีก ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องหากมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องรับผิดชอบชีวิตและค่าเสียหายเองเช่นนั้นหรือ”