บุรีรัมย์ - ผญบ.ดงหนาม จ.บุรีรัมย์ แจงไม่เจตนาทำให้อดีตผู้ช่วย ผญบ.เซ็นค้ำซื้อรถปิกอัพ ถูกฟ้องยึดที่ดินมรดกพร้อมสวนยางพาราและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนตัวคาใจส่งรถคืนให้บริษัทแล้วและไม่ติดค้างค่างวด ทำไมถึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย ด้านเหยื่อวอนผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ
วันนี้ (25 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีนายสมบูรณ์ บุญเรืองศรี อายุ 65 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านขอร้องให้ช่วยเซ็นค้ำประกันเช่าซื้อรถกระบะกับเต็นท์รถแห่งหนึ่งให้ในราคา 300,000 กว่าบาท แต่สุดท้ายนายสมบูรณ์ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนค้ำ กลับถูกทางบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องยึดที่ดินมรดกเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน พร้อมต้นยางพารา และสิ่งปลูกสร้างจำนวน 2 หลัง ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวปัจจุบันให้ลูกชายสร้างบ้านพักอาศัยและใช้ทำมาหากินโดยการปลูกยางพารา และเลี้ยงเป็ดเก็บไข่ขาย โดยสาเหตุที่ถูกฟ้องยึดที่ดินเนื่องจากผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นคนทำสัญญาซื้อรถกระบะไม่ยอมจ่ายเงินส่วนต่างให้ทางบริษัท ถึงแม้จะคืนรถและไม่ได้ค้างค่างวดแล้วก็ตามนั้น
ล่าสุด นายสมเดช แก้วประทุม ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงหนาม ออกมาระบุว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาจะทำให้อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถูกฟ้องยึดที่ดิน พร้อมทั้งได้ชี้แจงด้วยว่า เมื่อปี 2558 ตนได้ไปซื้อรถยนต์กระบะที่เต็นท์แห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ โดยได้ให้อดีตผู้ช่วยเป็นคนเซ็นค้ำประกันให้ โดยราคารถประมาณ 300,000 บาทเศษ จ่ายเงินดาวน์ไป 10,000 บาท ผ่อนชำระงวดละ 6,025 บาท รวมทั้งหมด 60 งวด ตนใช้งานอยู่ประมาณ 1 ปีเศษ คิดว่าน่าจะส่งต่อไม่ไหวจึงติดต่อให้ทางบริษัทไฟแนนซ์มารับรถคืน หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนมีพนักงานบริษัทไฟแนนซ์มาเอารถคืนไป ซึ่งพนักงานได้ตรวจเช็กสภาพรถก่อนจะรับคืนไปก็บอกว่ารถไม่ได้สึกหรอและไม่เห็นเรียกค่าเสียหายอะไร ประกอบกับช่วงที่ใช้รถ 1 ปีเศษ ไม่เคยติดค้างค่างวดเลย
แต่หลังจากนั้นปี 2560 ทางบริษัทไฟแนนซ์กลับส่งหนังสือมาบอกว่าขายรถที่ยึดคืนไปขาดทุนจะมาเรียกค่าส่วนต่างกับตนอีก 36,000 บาท ตนเห็นว่าถูกเอาเปรียบเพราะคืนรถให้ไปแล้วและไม่ได้ค้างค่างวด ทำไมจะต้องมาเรียกเงินกับลูกค้าอีก จึงไม่จ่ายให้และไม่ได้ติดต่อกลับด้วย และทั่งปี 2562 มีหมายจากสำนักงานบังคับคดีส่งมาหาตนและคนค้ำประกันว่าทางบริษัทได้ฟ้องยึดที่ดินก็รู้สึกตกใจ จากนั้นพากันไปติดต่อที่สำนักงานบังคับคดีซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เวลา 5 เดือนหาเงินมาจ่ายให้บริษัท 105,000 บาท ซึ่งเดือน ก.พ.นี้จะคบ 5 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาตนพยายามจะหาเงินไปจ่ายแต่ยอดก็ค่อนข้างเยอะตอนนี้ยังหาได้ไม่ครบ อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการตรวจสอบกรณีที่ทางบริษัทยึดรถคืนไปแล้วและไม่ได้ค้างค่างวด ทำไมถึงมาเรียกเงินจากลูกค้าและฟ้องร้องอีกก็อยากขอความเป็นธรรมเช่นกัน
ขณะที่นายสมบูรณ์ บุญเรืองศรี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกมาวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รู้กฎหมายให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือด้วย เพราะตนและครอบครัวไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครและไม่รู้จะทำยังไง หลังจากได้รับหมายก็ทุกข์ใจมากกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย