นครสวรรค์ - นักประดาน้ำใช้เครื่องโซนาร์ส่องเจ้าพระยาช่วยค้นหากระดูก-วัตถุพยานคลี่คดีอุ้มฆ่าพี่ผู้พิพากษา ขณะที่ญาติ ส.จ.อ๊อด หนึ่งในคนสนิท “พ.ต.ท.บรรยิน” ไม่เชื่อ ส.จ.ดังกับลูกน้องพัวพันคดีดัง ยันวันเกิดเหตุยังร่วมงานศพในหมู่บ้าน
วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานการค้นหาเศษซากกระดูกของนายวีรชัย พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ถูกอุ้มฆ่านำไปเผานั่งยางอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะมีการนำเศษซากกระดูกที่ยังเผาไม่หมดเอาไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้สะพานตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยที่ผ่านมามีการค้นพบเศษซากกระดูกรวมจำนวนทั้งหมด 7 ชิ้น ถูกนำส่งไปตรวจสอบยังส่วนกลางก่อนหน้านี้แล้ว
ล่าสุดช่วงบ่ายนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ร่วมกับทีมนักประดาน้ำจากหลายหน่วยกู้ภัย รวมกันกว่า 30 นาย ยังมีการลงค้นหาทางน้ำกันอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำส่วนหนึ่งนำเรือยางออกลาดตระเวนหาถุงพลาสติกห่อศพพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดี พร้อมใช้เครื่องโซนาร์สแกนหาวัตถุใต้น้ำในพิกัดระยะทางห่างจากจุดทิ้งศพประมาณ 20 กิโลเมตรเพื่อหาวัตถุต้องสงสัยติดริมชายฝั่ง โดยจะเน้นวิ่งเส้นทางห่างจากริมตลิ่งไม่เกิน 5 เมตร แต่จนถึงเวลา 15.00 น. ก็ยังไม่พบวัตถุพยานเพิ่มเติม แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าจะค้นหาหลักฐานทุกชิ้นจนกว่าจะค้นพบทุกรายการ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด ส.จ.เขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ ซึ่งตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ พบว่าภายในกำแพงรั้วเดียวกันมีบ้านเครือญาติอยู่ในนั้นอีก 2 หลัง และด้านหน้ามีการเปิดเป็นร้านขายกาแฟสด ชื่อร้าน “ผู้ใหญ่ชุม”
นางจิรภา ภู่ทิพย์ เจ้าของร้าน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานภรรยาของ ส.จ.อ๊อด ที่นั่งขายของภายในร้าน ระบุว่า ส.จ.อ๊อดไม่มีพฤติกรรมเป็นคนโหดร้าย แม้เวลาพูดจาจะเสียงดัง แต่แท้จริงเป็นคนใจดี มีนิสัยร่าเริง ชอบช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ตลอด คอยให้คำปรึกษาชาวบ้านทุกครั้งที่ได้รับความเดือดร้อน แต่หากใครมาพูดคุยและปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย ส.จ.อ๊อดจะไม่คุยด้วยเลยเพราะไม่ชอบเรื่องพวกนี้ จึงไม่เชื่อว่าคนอย่าง ส.จ.อ๊อดจะไปร่วมทีมลงมือฆ่าใครได้ และไม่มีเหตุผลที่จะทำด้วย เนื่องจากครอบคัรวลูกหลานมีความอยู่ดีกินดีกันทุกคน และในวันที่เกิดเหตุการณ์อุ้มฆ่า ส.จ.อ๊อดก็ยังอยู่ในพื้นที่ มาเป็นประธานงานฌาปนกิจศพให้คนในหมู่บ้าน ซึ่งก็มีรูปถ่ายยืนยันว่าวันนั้น ส.จ.อ๊อดอยู่ในพื้นที่จริง
“ส่วนนายชาติชาย เมณฑ์กุล และนายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ที่ถูกจับไปพร้อมกับ ส.จ.อ๊อด ก็เป็นคนในหมู่บ้าน ซึ่งเห็นกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยที่ทั้งคู่จะไปร่วมกันฆ่าใคร เพราะไม่ใช่นักเลง และไม่เคยมีประวัติต้องคดีใดๆ ไปลองเช็กดูได้ เอาแค่ว่าเวลามีเรื่องในหมู่บ้าน เจ้าสองคนนี้มันก็วิ่งหนีกระเจิงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไปฆ่าใคร” นางจิรภาระบุ
ด้านนายมนัส เข็มทอง อายุ 69 ปี มีศักดิ์เป็นพี่ชายภรรยา ส.จ.อ๊อด ให้การยืนยันด้วยเสียงสั่นเครือว่า ส.จ.อ๊อดเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน และมักจะไปทุกงานที่มีชาวบ้านมาเชิญ ส.จ.อ๊อดเขามีความสุขในเรื่องของการเลี้ยงนกเขา ทำไร่ทำเกษตร และเป็น ส.จ.มา 3 สมัย ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย จึงไม่เชื่อว่าจะไปก่อเหตุแบบนั้น
ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รู้แค่ว่า ส.จ.อ๊อดมีความสนิทสนมกัน เขาจะเรียก พ.ต.ท.บรรยินว่าเจ้านาย และช่วงหลังก็ไม่เคยพบเห็น พ.ต.ท.บรรยินมาหา ส.จ.อ๊อดที่นี่ มีเพียงลูกน้องของ ส.จ.ที่ไปมาหาสู่ มาช่วยกันทำไร่ เลี้ยงปลาอยู่ในฟาร์มของ ส.จ.อ๊อดเท่านั้น ยิ่งนายชาติชาย และนายประชาวิทย์ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพฤติกรรมฆ่าคน เพราะทั้งคู่ไม่ค่อยรู้ตาสีตาสาอะไร มีหน้าที่คอยช่วยขับรถให้ ส.จ.อ๊อด และไปซื้ออาหารมานั่งกินในไร่เท่านั้น
