xs
xsm
sm
md
lg

2 ฝั่งเสียงอ่อย รับ 8 เสียงไม่มีใครอยากปิดโรงเรียน แต่ยังหาจุดยุติไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์






นครปฐม - ทายาท 2 ฝั่งเสียงอ่อย รับ 8 เสียงไม่มีใครอยากปิดโรงเรียน แต่ยังหาจุดยุติไม่ได้ หากยังหาจุดที่ลงตัวได้อีกฝ่ายยอมให้คนกลางเข้ามามาดูแลบริหารงานก่อน และพร้อมเจรจาอีกครั้งถ้าทุกคนพร้อม เพราะสงสารเด็ก
หลังจากที่มีข่าวของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้มีการส่งหนังสือเพิกถอนใบอนุญาต โรงเรียนจารุวรรณวิทยา เลขที่ 30 ม.1 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยจะมีผลในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ได้รับการเสนอจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากไม่สามารถที่จะหาผู้รับโอนใบอนุญาตที่ชัดเจนได้

ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมได้มีการเข้าควบคุมกิจการมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการประชุมหารือเพื่อหาทางออกไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา เหมือนว่าจะสามารถลงตัวในการหาผู้รับโอนใบอนุญาตได้แล้ว เมื่อทายาททั้ง 8 คนได้มีการลงนามแต่งตั้งตัวแทนที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงานโรงเรียนมานั่งบริหารงานเพื่อพัฒนาโรงเรียนจารุวรรณวิทยา

ด้าน นายอมรเทพ สิรสุนทร หรือแดง บุตรชายของนายชุมพร สิรสุนทร หนึ่งใน 8 ทายาท เผยว่า เรื่องดังกล่าวน่าเสียดายที่เกิดขึ้น วันนี้อยากจะให้โรงเรียนได้เดินหน้าต่อไป แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 26 มกราคม ซึ่งทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้ส่งหนังสือแจ้งมาที่โรงเรียนเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เพื่อให้นักเรียนราว 438 คน ไปหาโรงเรียนแห่งใหม่ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

โดยมีการเพิกถอนใบอนุญาต เพราะได้มีทายาท 5 รายชื่อ ยื่น 6 ข้อเสนอเข้ามาในการขอยื่นให้ผู้ที่จะมารับโอนใบอนุญาต ซึ่งตนเองเห็นว่ามีบางข้อไม่เป็นการบริหารงานที่เหมาะสม จึงไม่ร่วมลงชื่อในการต่อใบอนุญาต ซึ่งขณะนี้เหมือนกับว่าผู้ที่ได้เสนอชื่อถอดใจ ถอนตัวไปแล้ว และขณะนี้หลังจากมีศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม แจ้งว่าจะมีโรงเรียนเปิดรับนักเรียนของเราทั้งหมด แต่ล่าสุดทราบว่ารับไม่หมด แล้วบางแห่งต้องมีการสอบเข้าด้วย บางแห่งบอกยังไม่คุยให้มาพบกันหลังจากนี้

“ถึงตรงนี้สงสารเด็กนักเรียนจาก 6 ข้อนั้น ตนเองจะไม่สนใจความขัดแย้ง แต่จะเสนอว่าตรงนี้ให้นักเรียนมีที่เรียนก่อนได้ไหม คือการให้คนกลางมาคอยดูแลโรงเรียนไปเลย โดยให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมจัดคนมาดูแลกันไปก่อน และให้ทายาทไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก แต่ทุกคนต้องเสนอทำไปร่วมกัน เพราะที่ผ่านมา ทายาทฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับผม เขาไม่ยอมไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อโรงเรียนได้เปิดกิจการต่อไปได้แล้ว ค่อยมาจัดการในการบริหารงานกัน ซึ่งลึกๆ มีปัญหากันมากับทายาทบางคนถึง 20 ปี และเรื่องการเพิ่มทายาทจาก 3 คนเป็น 8 คนก็เพิ่งมีมาไม่นานนี้ แต่ตนเองคิดว่าถ้าตกลงไม่ได้ก็ต้องยอมจบให้ปิดโรงเรียนกันไป แต่ถ้าเด็กเดือดร้อนผมจะขอเรื่องเดียวคือให้คนกลางมาดูแลบริหารงานก่อน และพร้อมเจรจาอีกครั้งถ้าทุกคนพร้อม”

ขณะที่ พล.ท.สุรพงษ์ ปราการรัตน์ หนึ่งใน 8 ทายาท กล่าวว่า ปัญหานี้ได้มีการพูดคุยกับทางนายอมรเทพ มานานแล้ว โดยทางทายาททั้ง 5 คนได้ยื่นข้อเสนอไปในการให้ผู้ที่จะมาขอรับโอนใบอนุญาต จำนวน 6 ข้อ เพราะเห็นว่าจะมีการพัฒนาโรงเรียนไปในทิศทางที่ดี ทั้งการจัดระบบการค้าขาย การจัดระเบียบความสวยงามในสถานที่ ซึ่งเป็นไปเพราะทางนายอมรเทพ ได้มีการยื่นเอกสารเข้ามาเสนอ 3 ข้อ ซึ่งตนเอง และนายอมรเทพ ต่างเป็นศิษย์เก่าที่เคยเรียนและผูกพันกับโรงเรียนแห่งนี้ การคาดหวังในการพัฒนาในรุ่นลูกหลานอยากให้มีต่อไป เพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และแสดงให้เห็นว่าทางทายาททั้ง 8 มีสิทธิเสียงเสมอกัน แต่ขณะนี้การบริหารงานต่อไปมันจะยาก เพราะถ้ามีบางคนไม่ฟังเสียงคนที่มีชื่อทายาท

พล.ท.สุรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้เราไม่ได้คิดว่าจะมาล้มโรงเรียนแต่ทำไปเพราะมีความหวังดี ซึ่งวันนี้เรามองว่าถ้ามีใครจะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อให้โรงเรียนสามารถดำเนินการต่อไปได้ก็ยินดี เพราะโรงเรียนจาวุรรณวิทยา สร้างตนเองให้มีความมั่นคง และสร้างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงหลายคน ส่วนข้อเสนอในข้อที่ 1 คือเรื่องผู้รับใบอนุญาตอยู่ในวาระ 2 ปีการศึกษา เมื่อครบกำหนดจับสลากหมุนเวียนผู้บริหารที่หมดสิทธิ ตรงนี้ที่ทางทายาทอีกฝั่งไม่เห็นด้วย แต่สามารถมาคุยกันได้ว่าใครบริหารดี ก็สามารถอยู่ต่อในวาระได้ เรื่องนี้ต้องมาคุยกันแบบชัดเจนได้

“วันนี้เรามาทำให้โรงเรียนเดินหน้าไม่ปิดกิจการไปก่อน แล้วขอให้ทายาททั้ง 8 ครอบครัว มาระดมความคิดกัน ส่วนเรื่องการไปร้องต่อศาลในเรื่องผู้จัดการมรดกค่อยมาว่ากันอีกครั้งก็ได้ อีกฝ่ายถ้ามีหลักฐานอะไรก็เอามาแสดงต่อศาลว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ขณะนี้สงสารและเห็นใจเด็กและครอบครัวที่กำลังจะประสบปัญหากับการถูกเพิกถอนใบอนุญาตในช่วงเดือนหน้านี้แล้ว” พล.ท.สุรพงษ์ กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ หลังกระแสข่าวที่สื่อมวลชนได้นำเสนอออกไปท่าทีของทายาททั้ง 2 ฝั่งได้มองไปในทิศทางเดียวกันคือ ต้องการให้โรงเรียนได้มีการดำเนินการต่อไปก่อน ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่เคยขัดแย้งกันในครอบครัวจะขอให้ไปแก้ปัญหาในอนาคต ซึ่งถึงขณะนี้ ทางคณะครู และผู้ปกครองได้เดินหน้าในการไปร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือลงมาในการสะสางปัญหาดังกล่าว โดยทั้งครู ผู้ปกครอง ต่างอยากจะให้หน่วยงานราชการเข้ามามีการเปิดโต๊ะเจรจากันอีกครั้ง เพื่อหาทางออกในความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจการต่อไป ท่ามกลางความหวังของนักเรียนภายในโรงเรียนซึ่งบางรายได้ไปสมัครและจ่ายค่าเรียนกับสถานศึกษาแห่งใหม่แล้ว แต่หากทางโรงเรียนจารุวรรณวิทยา จะมีปาฏิหาริย์ ได้เปิดกิจการต่อไปก็จะยอมเสียค่าเทอมที่แห่งอื่นและจะคงเรียนในสถานศึกษาแห่งนี้ เพราะเชื่อใจในการเรียนการสอนของคณะครูที่นี่

สำหรับบรรยากาศภายในโรงเรียน วันนี้ได้เริ่มคลายความเครียดกันมากขึ้น คณะครูได้หันหน้ากันเข้ามาเพื่อรวมพลังในการสอนหนังสือให้เด็กนักเรียน ในโค้งสุดท้ายเพื่อให้เด็กได้มีสมาธิในการเตรียมตัวสอบปลายภาคอย่างเต็มที่ และได้พยายามไม่ให้เด็กเสียสมาธิกับเรื่องดังกล่าวที่จะส่งผลต่อสภาพจิตใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากการดำเนินการร้องเรียนไม่เป็นผลอาจจะมีการรวมตัวเพื่อลงรายชื่อเพื่อร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เข้ามาควบคุมกิจการต่อไปหากสามารถทำได้ โดยทุกฝ่ายกำลังเดินหน้าเพื่อจะทำให้โรงเรียนจารุวรรณ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เป็นประวัติศาสตร์ของชุมชนมและเป็นความทรงจำที่ดีของผู้คนในอำเภอนครชัยศรีต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น