xs
xsm
sm
md
lg

ซ้ำดาบสอง! ป่าไม้แจ้งจับโรงโม่ต้นสังกัด รปภ.มัดไม้ขีดติดยากันยุงทำชนวนเผา ปล่อยป่าลำปางไหม้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ป่าไม้ฟันซ้ำดาบสอง..แจ้งจับโรงโม่ใหญ่แม่ทะปล่อยป่าลำปางไหม้เสียหาย หลังจับ รปภ.ในสังกัดได้พร้อมของกลางก้านไม้ขีดมัดติดยากันยุง





หลังจากนายอิศเรศ จิรารัตน์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง หรือ ผอ.ชุดเหยี่ยวไฟป่า นำกำลัง จนท.เข้าไปดับไฟป่าพื้นที่ติดกับโรงโม่หิน บริษัทศิลาสินลำปาง (2522) จำกัด อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพบพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เสียหายกว้างถึง 109 ไร่ และตรวจพบเพิงพัก 1 หลัง รวมทั้งไม้ขีดที่ถูกมัดติดกับยากันยุงเป็นชนวนจุดไฟอยู่ในเพิงที่ห่างจากจุดเกิดเหตุไฟป่าราว 10 เมตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสืบสวนจนทราบว่า นายอุดมสินธิ์ ธิธรรมา อายุ 68 ปี ชาวบ้าน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งทำงานป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงโมหินดังกล่าวเป็นผู้ที่พักอยู่ในเพิงดังกล่าว จึงติดตามควบคุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนกับของกลางดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าชนวนจุดไฟเป็นของตนเอง แต่เตรียมนำไปจุดเผาไร่สวนของตัวเอง และไม่ได้เผาป่าแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และเผาป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ไปแล้วนั้น


ล่าสุด ในการประชุมวอร์รูมป้องกันหมอกควัน ไฟป่าลำปาง โดยมีหน่วยงานต่างๆ รายงานผลการดำเนินงานในรอบสัปดาห์นี้ พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ. ได้รายงานว่า ห้วงระหว่างวันที่ 23 ม.ค.-23 ก.พ. 2563 ได้มีการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามเผา รวม 75 ราย มากที่สุด 3 ลำดับ คือ อำเภอเถิน 12 ราย รองลงมาคือ แม่ทะ 11 ราย เมืองปาน และแม่เมาะ อำเภอละ 9 ราย

ขณะที่ นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ได้รายงานความคืบหน้ากรณีที่มีการจับกุมนายอุดมสินธิ์ ธิธรรมา อายุ 68 ปี พร้อมของกลางชนวนที่ใช้ในการจุดไฟเผาป่า ว่า กรมป่าไม้ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท ศิลาสินลำปาง (2522) จำกัด ซึ่งเป็นผู้สัมปทานพื้นที่บริเวณเกิดเหตุไฟไหม้ป่าดังกล่าว เนื่องจากพบว่าพื้นที่ป่าที่เสียหายรวม 109 ไร่นั้น มีอยู่ 14 ไร่อยู่ในพื้นที่ได้รับอนุญาตของบริษัท จากทั้งหมด 220 ไร่ ใน 2 ข้อกล่าวหาตามประกาศแนบท้ายใบอนุญาตฯ ที่ผู้รับอนุญาตจะต้องปฏิบัติ

กรณีดังกล่าวถือว่าบริษัท ศิลาสินลำปาง (2522) จำกัด ปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตฯ เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต ตามข้อ 1. “ต้องไม่สั่งการหรือยินยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดกระทำการหรือละเว้นการกระทำการใดๆ ให้เป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าไม้หรือของป่า หากมีการกระทำผิด ผู้รับอนุญาตต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นๆ ด้วย

และตามข้อ 6 “ต้องคอยสอดส่องตรวจตราระมัดระวังมิให้มีการบุกรุกในพื้นที่ที่มีการบุกรุก ถ้ามีการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าสงวนแห่งชาติ หรือกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบทันที หากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นโดยที่ผู้รับอนุญาตควรจะทราบ แต่ละเลยมิได้แจ้งให้ทราบ ผู้รับอนุญาตจะต้องรับผิดชอบด้วย และต้องมีการจ่ายค่าฟื้นฟู ดูแล บำรุงพื้นที่ให้กลับคืนมาดังเดิมให้มากที่สุด

ตามข้อ 17 กรณีผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จะมีความผิดตามมาตรา 33/2 และ 33/3 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 33/2 ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาต ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง และก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิต หรือสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างร้ายแรง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท

มาตรา 33/3 ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตผู้ใดปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง หรือกระทําการฝ่าฝืนมาตรา 14 ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น