ป่าไม้ลุยตรวจที่ดิน "แม่ธนาธร" หลังปารีณาร้องให้ตรวจสอบ

ราชบุรี - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลุยเข้าตรวจสอบที่ดิน “แม่ธนาธร” หลัง “ปารีณา” ร้องเรียนคณะกรรมมาธิการฯ เพื่อให้ดำเนินการไปแนวทางเดียวกันกับกรณีตนเอง ด้าน “แม่ธนาธร” ส่งตัวแทนเข้านำชี้ที่ดิน

จากกรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้ร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน กมธ. ให้มีการตรวจสอบที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากเขาสนฟาร์ม ของ น.ส.ปารีณา ที่ถูกตรวจยึดไปแล้วเพียงแค่ 10 กม.เท่านั้น

ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้อำนวยการส่วนป่าไม้ จ.ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จ.ราชบุรี อบต.รางบัว ผู้นำชุมชน ได้ร่วมประชุมในการวางแผนที่จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ที่ห้องประชุมขององค์การบริหารส่วนตำบลรางบัว โดยมีตัวแทนของ นางสมพร เป็นผู้มาชี้แนวเขตในการตรวจสอบ

ในเบื้องต้นทราบว่า พื้นที่ที่นางสมพร ครอบครองอยู่มีประมาณ 4,000 ไร่ ที่ซื้อต่อมาจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 ซึ่งที่ดินที่นางสมพร ซื้อมานั้นเป็นการซื้อในลักษณะเหมารวมทั้งหมดโดยมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. น.ส.3 น.ส.2 และ ภบท.5 ซึ่งในส่วนของเอกสารสิทธิมีอยู่รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,700-2,800 ไร่ นอกนั้นเป็น น.ส.2 กับ ภบท.5 (เป็นเอกสารการจับจอง) ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าทำการตรวจสอบโดยรอบ จากนั้นจะนำมาขึ้นรูปแปลงเพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่นั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เขตป่าไม้ถาวร และเขต ส.ป.ก.ทั้งหมดกี่ไร่

ซึ่งที่ผ่านมานั้น นางสมพร ถูกชาวบ้านไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอจอมบึง เพื่อขอให้นางสมพร นั้นคืนที่ดินที่เป็นป่าชุมชนให้แก่ชาวบ้าน และได้มีการเข้าตรวจสอบแล้ว โดยนางสมพร ยินที่จะคืนที่ดินให้แก่ชาวบ้านรวมแล้วกว่า 450 ไร่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีเรื่องของ น.ส.ปารีณา ในการครอบครองที่ดินบริเวณเขาสนฟาร์ม ต.รางบัว อ.จอมบึง จนมีการตรวจสอบและพบว่า น.ส.ปารีณา นั้นบุกรุกพื้นที่ป่าจริง และทำให้มีการแจ้งความดำเนินคดี แต่ในส่วนที่ดินของนางสมพร นั้นเมื่อคืนให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินคดี จึงทำให้ น.ส.ปารีณา นั้นร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อให้ดำเนินการไปในแนวทางเดียวกัน