ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ฝุ่นควัน PM 2.5 เชียงใหม่ พุ่งเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง คลุมหนาทึบทั่วเมือง กระทบสุขภาพ เตือนประชาชนเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช้านี้พบจุดความร้อนจากการเผาทั่วพื้นที่ 62 จุด ขณะที่ จนท.ระดมกำลังสกัดทุกทาง
วันนี้ (18 ก.พ. 63) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากในตัวเมืองและระยะไกลได้ตามปกติ ขณะที่ผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 และคุณภาพอากาศพบว่าสูงเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก และตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ อยู่ที่ 77 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 86 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 167 และ190 ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 100
มีการแจ้งเตือนและข้อแนะนำประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงให้งดทำกิจกรรมนอกบ้าน
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่าเช้านี้ (18 ก.พ. 63) มีการตรวจพบจุดความร้อนในจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสิ้น 62 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 16 จุด ป่าอนุรักษ์ 39 จุด ในชุมชนและเขต ส.ป.ก.อีก 7 จุด มากที่สุดในอำเภอแม่แจ่ม 11 จุด รองลงมา คือ อำเภอจอมทอง และอำเภอพร้าว อำเภอละ 7 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ประกอบกับสภาพอากาศเย็นและไม่มีลม ฝุ่นควันจึงไม่สามารถระบายออกไปได้ โดยในเช้าวันนี้แม้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในทุกอำเภอจะบูรณาการกำลังเข้าดับไฟป่าและทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันการลุกลามของไฟป่าตลอดทั้งวันทั้งคืน
โดยเฉพาะที่อำเภอแม่ออน บริเวณกิ่วฝิ่น ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน รอยต่อระหว่างอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กับตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง และดอยสามหงก หมู่บ้านแม่กำปอง บ้านแม่เตาดิน บ้านแม่กะ ตำบลออนเหนือ อำเภอแม่ออน ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่ออน ฝ่ายความมั่นคง หน่วยดับไฟป่าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ระดมกำลังเร่งเข้าดับไฟป่าอย่างเต็มที่
ด้านกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้ส่งเครื่องบินฝึกแบบ 41 หรือ บก.41 ของศูนย์การบินทหารบก ขึ้นบินตรวจสอบสภาพอากาศและหาพิกัดจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่รอยต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ หลังเช้าวันนี้สภาพอากาศทั่วทั้งเมืองเชียงใหม่เต็มไปด้วยฝุ่นควันสีขาวหนาทึบ ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจะมีกระแสลมจากทางใต้และทางทิศตะวันตกของจังหวัดเชียงใหม่พัดเข้ามา และอาจทำให้ฝุ่นควันจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนลอยเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ทำการตรวจสอบตามซึ่งพบจุดความร้อนจากการเผาเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าบริเวณอำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอดอยหล่อ และอำเภอจอมทอง เป็นบางส่วน แต่ไม่พบในบริเวณป่ารอยต่อกับระหว่างสองจังหวัดแต่อย่างใด จึงได้แจ้งพิกัดการเกิดไฟป่าให้เจ้าหน้าที่ดับไฟภาคพื้นดินเร่งเข้าดับดำเนินการดับไฟไม่ให้ลุกลามแล้ว
ด้าน พ.อ.กฤติ พันธะสา เลขานุการ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบ 32 ได้กลับมาประจำการณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว หลังหยุดซ่อมบำรุงตามวงรอบ โดยในระยะนี้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจะขยับจากทางใต้ขึ้นมาทางเหนือ และจะมีการปรับแผนการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม นำเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบ 32 จะมาปฏิบัติหน้าที่ประจำที่จังหวัดเชียงใหม่ 1 ลำ และจังหวัดตาอีก 1 ลำ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 72 และเครื่องบินฝึกแบบ 41 ของกองทัพบกจะมาประจำอยู่ที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ที่ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยในการลาดตระเวน ตรวจสอบสภาพอากาศ และหาพิกัดจุดความร้อนส่งให้หน่วยดับไฟภาคพื้นดินต่อไป