ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ฝุ่นควันหนาทึบคลุมเมือง กลิ่นเหม็นไหม้รู้สึกได้ สถานีตรวจวัดกรมควบคุมมลพิษและแอป AirCMI เตือนค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน เริ่มกระทบสุขภาพ ขณะที่เว็บดังเผยค่ามลพิษพุ่งติดอันดับ 6 ของโลก แนะงดทำกิจกรรมนอกบ้าน
วันนี้ (16 ก.พ. 63) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบ มองเห็นความขุ่นมัวด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน และสามารถรับรู้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ได้อย่างชัดเจนเช่นกันแม้อยู่ภายในบ้าน
โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก และตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ อยู่ที่ 55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 111 และ 124 ตามลำดับ ซึ่งระดับคุณภาพอากาศถือว่าอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว
ขณะที่การรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพจากแหล่งข้อมูลต่างๆ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เกินค่ามาตรฐานจนอยู่ระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งสิ้น โดยแอปพลิเคชัน AirCMI แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในช่วงใกล้เวลา 12.00 น. พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ 151 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
และอีกหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ต่างพบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเช่นกัน เช่น อำเภอเชียงดาว 284ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,อำเภอแม่แตง 229 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร หรืออำเภอสันทราย 163 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นต้น พร้อมมีข้อแนะนำประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงให้งดทำกิจกรรมนอกบ้าน
นอกจากนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ ค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่พุ่งทะยานให้สู่อันดับ 6 ของโลก พบดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 177 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมือง Dhaka ประเทศบังกลาเทศ วัดค่าได้ 295 US AQI ส่วนกรุงเทพฯ วัดค่าได้ 42 อยู่อันดับที่ 59 ของโลก
สำหรับสาเหตุของปัญหานั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เนื่องมาจากมีการเผาป่าและเผาอื่นๆ ทั่วพื้นที่ประกอบกับกระแสลมอ่อนจึงทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นควัน ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันปัญหาฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่าพบจุด Hotspot ช่วงเช้าวันนี้ (16 ก.พ. 63) จำนวน 100 จุด ในพื้นที่ 15 อำเภอ 34 ตำบล พบจุด Hotspot ใกล้เคียงจุดเดิมที่ลุกลามจากรอบบ่ายวานนี้ จำนวน 2 จุด เป็นจุดใหม่ จำนวน 98 จุด