เพชรบุรี - ตร.รวบตัวผัว น.ส.น้ำฝน หลังก่อเหตุหลบหนีสถานบำบัดยาเสพติด สารภาพอยู่ตอนเกิดเหตุปล้นแต่ไม่กล้าแสดงตัวกลัวตำรวจจับ ต้องหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าหลังบ้าน
วันนี้ (14 ก.พ.) สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางไปติดตามคดีที่ น.ส.น้ำฝน ทรัพย์บัว อายุ 40 ปี ชาวบ้านหนองตาฉาว ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก ว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ถืออาวุธปืนยาวบุกเข้ามาปล้นบ้านตนเมื่อเวลาตี 5 ของคืนวันที่ 11 ก.พ.63 พร้อมกับทำร้ายตน และนำเอาทรัพย์สินของตนไปหลายรายการ มูลค่ากว่า 1 แสนบาท โดยมี พล.ต.ต.เทียนชัย คามะปะโส ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.มนัสพันธ์ กิ่งนอกวงศ์ ผกก.สภ.ท่าไม้รวก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี
จากการลงพื้นที่ติดตามคดีดังกล่าว สามารถจับกุมตัว นายพิเชษฐ์ นวมเจริญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/2 ม.2 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี หลังหลบหนีกบดานภายในห้องเช่าในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวก
เบื้องต้น จากการสอบสวน นายพิเชษฐ์ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.น้ำฝน ทรัพย์บัว ผู้เสียหายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ถืออาวุธปืนยาวบุกเข้ามาปล้นบ้านตนเมื่อเวลาตี 5 ของคืนวันที่ 11 ก.พ.63 ที่ผ่านมา รับสารภาพว่า ตนได้ถูกนำตัวไปบำบัดผู้ติดยาเสพติดที่สถานพินิจวิวัฒพลเมือง ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ
หลังจากนั้นตนได้ก่อเหตุหลบหนีออกมาจากสถานบำบัดยาเสพติด เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา และกลับมาหลบซ่อนตัวภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุ กับ น.ส.น้ำฝนซึ่งเป็นภรรยาได้ 2 วัน ต่อมา ช่วงเช้ามืดของวันที่ 11 ก.พ.63 ได้มีกลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน พร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาในบ้านและจับตนกับ น.ส.น้ำฝน เอาเชือกมัดมือนอนคว่ำหน้า
หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ปล้นเอาทรัพย์สินไปหลายรายการรวมมูลค่ากว่าแสนบาท โดยคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ตนด้วยความตกใจกลัวว่าจะถูกตำรวจตามจับดำเนินคดีที่หลบหนีจากสถานบำบัดยาเสพติด จึงหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าหลังบ้าน และหลบหนีไปซ่อนตัวภายในห้องเช่าในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และให้ น.ส.น้ำฝน แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบในวันเกิดเหตุ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวตนเองได้ภายในห้องเช่าดังกล่าว
เบื้องต้น นายพิเชษฐ์ และ น.ส.น้ำฝน ยืนยันว่า ถูกกลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คนพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาปล้นทรัพย์ในบ้านจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจาก 2 คนผัวเมียยังให้การไม่ตรงกัน ประกอบกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไม่พบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุแต่อย่างใด ทางด้าน นายพิเชษฐ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป