xs
xsm
sm
md
lg

หน้ากากอนามัยยังขาดตลาด ชาวบ้าน-ร้านค้ายันยี่ปั๊วซื้อได้น้อยลง แถมล็อตใหม่ส่อแพงขึ้นอีก 100%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาคเหนือ - หน้ากากอนามัย-เจลแอลกอฮอล์ล้างมือหลาย จว.ยังขาดตลาด ชาวบ้านหาซื้อกันได้ครั้งละไม่กี่ชิ้น ยี่ปั๊วต้องรอของนานขึ้น-ออเดอร์ได้ลดลง แถมล็อตใหม่ส่อแพงขึ้น 100% จนบางร้านไม่กล้าสั่งมาขาย


แม้กระทรวงพาณิย์จะประกาศให้หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม ห้ามกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หลายพื้นที่สินค้าขาดตลาด-ราคาขายปลีกสูงขึ้น แม้แต่ยี่ปั๊วเองก็ยังสั่งซื้อมาจำหน่ายแทบไม่ได้

นายพงศ์นที อุตตะถิน ชาวบ้านเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ บอกว่า ตนและครอบครัวต้องใช้มาสก์ปิดปากและจมูกป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และฝุ่นพิษ PM 2.5 กันทั้งครอบครัว ก่อนหน้านี้จะซื้อมาใช้คราวละเป็นกล่องๆ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบหาซื้อไม่ได้ และไม่มีขายเป็นแบบกล่องแล้ว จนต้องตระเวนซื้อที่ร้านจำหน่ายเวชภัณฑ์นำมาแบ่งขาย ซึ่งได้ครั้งละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น และราคาก็เริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นด้วย


เจ้าของร้านจำหน่ายเวชภัณฑ์รายหนึ่งบอกว่า ขณะนี้ไม่มีมาสก์ขายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องจากสั่งของมาขายเหมือนปกติไม่ได้ ซึ่งถ้าสินค้าที่วางขายหน้าร้านหมดลงก็จะไม่มีขายอีก และยังไม่มีกำหนดว่าจะมีมาจำหน่ายได้เมื่อไร

ด้านนางศศิธร ธนัญชัย ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา เปิดเผยระหว่างออกตรวจสอบร้านค้า ร้านขายยาหน้า ม.พะเยา ว่า ช่วงนี้ตามร้านค้าต่างมีมาสก์คงเหลือน้อยมาก บางร้านไม่มีขายแล้ว แต่ยังไม่พบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินจริง ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อควบคุมการขึ้นราคาและกักตุนสินค้า


นางสาวทิพยรัตน์ อุ่นกาศ เจ้าของร้านขายยา หน้ามหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยว่า ตอนนี้หน้ากากอนามัย N95 จำหน่ายชิ้นละ 40 บาท หน้ากากกันฝุ่น 3 ชิ้น 25 บาท แบบคาร์บอนชิ้นละ 10 บาท คาดว่าอีกประมาณ 3-4 วันสินค้าก็จะหมด คงเหลือเพียงเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเท่านั้นที่ยังคงพอมีขาย แต่หากล็อตนี้หมดจะยังไม่สั่งมาเพราะราคาสูงขึ้นเกือบ 100% ทำให้ไม่กล้าที่จะสั่งมาขาย

ส่วนที่เชียงใหม่ บรรดาร้านค้าส่งรายใหญ่ (ยี่ปั๊ว)/ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก็มีสินค้าในสต๊อกเพียงเล็กน้อยหรือบางรายไม่มีในสต๊อกแล้ว และต้องใช้เวลาในการสั่งนานขึ้น 1-2 สัปดาห์ รวมทั้งสั่งซื้อได้ในปริมาณที่ลดลงประมาณร้อยละ 60-70 จึงทำให้ผู้ประกอบการบางรายจำกัดปริมาณการซื้อของผู้บริโภค โดยขายส่งจำกัดไม่เกินรายละ 10 กล่อง (กล่องละ 50 ชิ้น) ขายปลีกไม่เกินรายละ 2-10 ชิ้น เพื่อเป็นการกระจายสินค้าให้ทั่วถึง




กำลังโหลดความคิดเห็น