เชียงราย/เชียงใหม่ - สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาฯ ยังไม่คลี่คลาย ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่ซื้อหน้ากากอนามัยจนเริ่มหมดสต๊อกและมีการปรับราคาขึ้นหลายเท่าตัว เชียงรายมีพ่อค้าหัวใสแกะกล่องขายปลีกชิ้นละ 20-25 บาท ด้านเชียงใหม่ย่านนิมมานเหมินทร์เกือบทุกร้านที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยสินค้าเริ่มขาดตลาดแล้ว
วันนี้ (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้สินค้าประเภทหน้ากากอนามัยรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะตามร้านขายยาในจังหวัดเชียงรายที่มักจะมีผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยจำหน่ายนั้นพบว่าเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดเพราะมีผู้ไปหาซื้อไว้ใช้กันอย่างล้นหลาม และมีการขึ้นป้ายหน้าร้านว่าหน้ากากอนามัยชนิดเอ็น 95 หรือมีด้านที่ใช้ป้องกันเชื้อโรคหมด โดยเหลือเพียงหน้ากากทั่วไปที่ใช้ป้องกันฝุ่นละอองขนาด 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรหรือชนิดอื่นๆ เท่านั้น
ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในร้านทั่วๆ ไปที่หน้ากากอนามัยชนิดเอ็น 95 ถูกจำหน่ายไปจนหมดร้านทำให้ประชาชนทั่วไปได้หาซื้อหน้ากากชนิดทั่วไปหรือแบบที่ใช้ป้องกันฝุ่นละอองนำมาสวมใส่เพื่อใช้ป้องกันตัวเองต่อไป โดยหน้ากากอนามัยดังกล่าวมีให้เลือกใช้หลากหลาย โดยบางอันมีราคาสูงถึงชิ้นละกว่า 120 บาท กระนั้น แม้จะมีราคาสูงแต่ก็สามารถถอดเปลี่ยนตัวกรองชั้นในได้และกำลังจะหมดตลาดแล้วเช่นกัน
ด้านหน้ากากอนามัยชนิดเอ็น 95 พบว่าได้มีผู้ซื้อบางรายที่หาซื้อไปแบบเป็นกล่องที่มีบรรจุภัณฑ์อยู่ภายในหลายชิ้นได้นำไปแกะจำหน่ายเป็นชิ้น ชิ้นละประมาณ 20 บาท ให้แก่ผู้ที่อยากได้ไว้ใช้อีกด้วย ซึ่งก็พบว่าสามารถจำหน่ายหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ขณะที่พบว่าที่ตลาดชายแดนแม่น้ำโขงด้าน อ.เชียงแสน ทางเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม อ.เชียงแสน ยังคงสั่งซื้อหน้ากากอนามัยชนิดต่างๆ ไปใช้ในเขตเป็นจำนวนมากเช่นเดิมเพราะเป็นจุดที่มีคนจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแม้ว่าบางส่วนจะทยอยเดินทางกลับออกมาแล้วก็ตาม
ผู้ประกอบการร้านขายยารายหนึ่งระบุว่า ปัจจุบันประชาชนตื่นตัวหาซื้อหน้ากากอนามัยไปใช้กันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่จะซื้อไปให้บุตรหลานที่ต้องไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนจนทำให้แบบเอ็น 95 หมดสต๊อกทำให้มีการหาซื้อหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาไปใช้กันแทน กระนั้น มีข่าวว่าจากการที่มีการหาซื้อกันมากและยังคงมีการเกิดโรคนี้อยู่ทำให้สินค้าชุดใหม่ที่จะส่งเข้าไปทั้งแบบเอ็น 95 และแบบธรรมดาอาจจะมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมไปอีก 2-3 เท่าตัวต่อไป
ด้านจังหวัดเชียงใหม่ จากการสังเกตการณ์ย่านนิมมานเหมินทร์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินเที่ยวชมจำนวนมาก แม้ว่าอาจจะดูเบาบางลงจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยที่ส่วนใหญ่ต่างพากันสวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลาด้วย ขณะเดียวกันพบว่าตามร้านขายยาทุกแห่งทั่วทั้งย่านนิมมานเหมินทร์ต่างมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แวะเวียนเข้าไปหาซื้อหน้ากากอนามัยกันไม่ขาดสายเพื่อจะนำกลับไปใช้ที่ประเทศจีนในช่วงที่มีสถานการณ์ของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ด้วย ซึ่งร้านขายยาหลายแห่งขายหน้ากากอนามัยจนหมดเกลี้ยง
จากการสอบถามเจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งย่านนิมมานเหมินทร์บอกว่า ตั้งแต่ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้เริ่มมีชาวจีนมาหากว้านซื้อหน้ากากอนามัยเพื่อนำกลับไปประเทศจีนแล้ว กระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหน้ากากอนามัยทุกชนิดเริ่มเกิดภาวะขาดตลาด และราคาต้นทุนที่รับมาขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวด้วย ยกตัวอย่างเช่น หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาที่เคยมีต้นทุนเพียงชิ้นละประมาณ 1 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 5-7 บาท เป็นต้น ซึ่งพบว่าบางร้านจากที่เคยขายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา กล่องบรรจุ 50 ชิ้นในราคากล่องละ 100 บาท เพิ่มเป็น 500 บาท ก็ยังมีคนจีนที่พร้อมจะซื้อ
เจ้าของร้านขายยารายเดียวกันนี้บอกด้วยว่า ขณะนี้ยังสามารถหาหน้ากากอนามัยมาขายได้เรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ทุกชนิดและจัดหามาได้ครั้งละจำนวนไม่มากนัก แต่เมื่อนำมาขายแล้วจะมีลูกค้ามาซื้อหมดไปภายในเวลารวดเร็ว โดยหน้ากากอนามัยชนิดที่มีราคาสูง เช่น N95 อาจจะขายได้ช้ากว่าเล็กน้อย ซึ่งนอกจากหน้ากากอนามัยที่ลูกค้ามีความต้องการซื้อสูงแล้ว แอลกอฮอล์แบบขวดพกพาและเจลล้างมือก็เป็นที่ต้องการมากเช่นกันในช่วงนี้ คาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนกว่าสถานการณ์ของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะคลี่คลาย