ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ปธ.สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นแจงสมาชิกกรณีเงินฝากถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวอดีตผู้จัดการสหกรณ์ “เอกราช ช่างเหลา” 431 ล้านบาทยังเดินหน้าเอาผิดทั้งอาญาและแพ่ง โอ่ปีนี้กำไรอู้ฟู่กว่า 1,126 ล้านบาท ปันผลและเฉลี่ยคืนมากกว่าปีก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (3 ก.พ.) ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงษ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ออกหนังสือเปิดผนึกถึงสมาชิกสหกรณ์ฯ แจ้งนัดหมายการประชุมใหญ่สามัญประจำปีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จากเดิมกำหนดประชุมวันที่ 7 ก.พ. 63 ได้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 13 ก.พ. 63 พร้อมๆ กับการจ่ายเงินปันผล และเงินเฉลี่ยคืนที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา เพราะสหกรณ์ฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 113 ล้านบาท ส่วนเรื่องปัญหาคดีความยักยอกเงินสหกรณ์ฯ จำนวน 431 ล้านบาท ที่เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2554 ก็ยังเดินหน้าตามขั้นตอนกฎหมาย
สำหรับเงินออมที่ฝากไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์จำนวนดังกล่าวถูกโอนเข้าบัญชีของนายเอกราช ช่างเหลา อดีตผู้จัดการสหกรณ์ฯ ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทางคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว
สำหรับหนังสือเปิดผนึกดังกล่าวมีใจความดังนี้ เรียน สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ทุกท่าน ด้วยคณะกรรมการดำเนินการมีมติให้จัดประชุมใหญ่สามัญขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับข้อ 61 ให้ดำเนินการประชุมใหญ่สามัญภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์ (31 ธันวาคม ของทุกปี) และข้อ 63 การประชุมใหญ่โดยผู้แทนสมาชิกเท่านั้น
จึงเรียนเชิญผู้แทนสมาชิกเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับสมาชิกที่สนใจเข้าสังเกตการณ์ คณะกรรมการสำรองที่นั่งไว้ให้ไม่เกิน 100 คน ปกติคณะกรรมการวางแผนกำหนดประชุมไว้วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 แต่เนื่องจากคณะกรรมการขอนุมัติผ่อนปรน ไม่ตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญ เนื่องจากเงินสดขาดบัญชี เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสมาชิก จึงรอหนังสือสั่งการจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประกอบกับผู้สอบบัญชีรับใบอนุญาตยังไม่รับรอง จนกว่าจะมีหนังสือสั่งการจากรมตรวจบัญชีสหกรณ์และการประชุมต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันตามข้อบังคับที่ 67
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงจัดการประชุมช้าออกไปจากเดิม แต่ก็กำหนดให้จ่ายปันผล เฉลี่ยคืนทันทีเมื่อที่ประชุมใหญ่สามัญอนุมัติ และต้องจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก
โดยปีนี้สหกรณ์ของพวกเรามีกำไรสุทธิ 1,126,271,660.15 บาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว (1,013,194,839.11) คณะกรรมการจึงมีมติจัดสรรกำไรเป็นเงินปันผลร้อยละ 6 เงินเฉลี่ยคืนร้อยละ 17 ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว (เงินปันผลร้อยละ 6 เงินเฉลี่ยคืนร้อยละ14 ซึ่งเป็นความมุ่งหวังคือส่งความรักความปรารถนาดีไปยังมวลสมาชิกในวันแห่งความรัก)
สำหรับประเด็นปัญหากรณีเงินหายไปจากบัญชีราว 431 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการได้ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดำเนินการทั้งในด้านนิติศาสตร์และหลักรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป ในด้านนิติศาสตร์ คดีความก็ดำเนินไปตามขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย และคณะกรรมการได้มีมติจ้างทนายความดำเนินคดีไปจำนวน 2 ล้านบาท ดำเนินการทั้งคดีความอาญาและคดีความแพ่ง รายละเอียดเพิ่มเติมจะนำแจ้งที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก
ส่วนทางด้านรัฐศาสตร์ คณะกรรมการก็วางแผนดำเนินการไปตามกระบวนการของสหกรณ์ซึ่งมีระเบียบและกฎหมายที่กำหนดไว้ โดยตระหนักและยึดมั่นไว้ว่าทำอย่างไรจะไม่ส่งผลกระทบต่อการปันผล เฉลี่ยคืนของสมาชิก ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปด้วยดี