กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจน์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานป้องกัน ทต.ไทรโยค ลุยดับไฟป่าทั้งคืน พบภูเขาไหม้หมดทั้งลูก วอนชาวบ้านหยุดเผาได้แล้ว
วันนี้ (30 ม.ค.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันของเทศบาลตำบลไทรโยค ได้ลงสำรวจพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้เพื่อตรวจดูความเสียหาย ในท้องที่หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ ศูนย์วิทยุนครกาญจน์ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ป่าบนเขาหลังวัดเขาเข้เทพมิมิตรวนาราม หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี กำลังลุกลามเข้ามาที่กุฏิพระ จึงได้จัดอาสาสมัครและรถพยาบาลออกตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบไฟป่าเป็นวงกว้าง
พระสงฆ์กำลังระดมช่วยกันใช้ถังน้ำสาดเพื่อสกัดกั้นไฟไม่ให้ลุกลามเข้ามาในเขตวัด และได้มีการประสานงานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลตำบลไทรโยค ขอรถดับเพลิงและอุปกรณ์ในการทำแนวกันไฟเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุ ในจุดเกิดเหตุอาสาสมัคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันของ ทต.ไทรโยค ได้ทำแนวกันไฟและระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นไฟที่กำลังลุกไหม้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
แต่ปรากฏว่า ต่อมาในเวลา 18.40 น. ในบริเวณภูเขาลูกดังกล่าวได้มีไฟลุกไหม้อีกครั้งอย่างรุนแรงซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี (ศูนย์วิทยุนครกาญจน์) และไฟได้ลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนอยู่หลายหลัง และไฟได้ลุกไหม้ลามเข้าใกล้เคียงกับตัวบ้าน ทางอาสาสมัครจึงได้ออกให้การช่วยเหลือและประสานงานไปยัง ทต.ไทรโยค
เพื่อขอกำลังสนับสนุนและประสานงานไปยังหน่วยควบคุมไฟป่าบ้านทุ่งก้างย่าง ต่อมา ทางร้านแก้วกาญจน์วัสดุก่อสร้าง นำโดย เฮียช้าง ได้นำกำลังคนงานและอุปกรณ์เครื่องเป่าลมทำแนวกันไฟพร้อมน้ำ จำนวน 1,000 ลิตร และเครื่องฉีดน้ำมาช่วยในจุดเกิดเหตุ ซึ่งผ่านไป 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงวางแผนการทำงานใหม่โดยทำแนวกันไฟและทำการจุดไฟให้ลุกไหม้ขึ้นไปหาไฟที่กำลังลุกไหม้และลุกลามอยู่ จนกระทั่งเวลา 23.45 น. จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไฟได้ลดความรุนแรงลง และไม่มีการลุกไหม้หรือลุกลามอีกแต่ยังคงมีการไหม้อยู่ในวงจำกัด
จากการสำรวจพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวไม่มีบ้านเรือน รวมถึงพืชไร่ของชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเพลิงไฟ แต่ยังคงมีความร้อนสะสมอยู่ และมีความเสี่ยงที่จะปะทุขึ้นมาอีก จากการสำรวจความเสียหายโดยรอบพบว่า ไฟได้ไหม้พื้นที่ภูเขาหมดทั้งลูก
นายสมรักษ์ สืบดา เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญงาน เทศบาลตำบลไทรโยค และนายศรใหม่ เสียงใส พนักงานสื่อสารศูนย์วิทยุนครกาญจน์ (มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี) ซึ่งอยู่ในทีมที่เข้าไปดับไฟ ได้ฝากไปถึงประชาชน รวมถึงชาวไร่ชาวสวน ช่วงนี้หน้าแล้งแดดแรงและลมแรงขอให้งดการจุดไฟเผาหญ้าในไร่ เพราะเราไม่รู้ว่าลูกไฟที่ลอยไปในอากาศเป็นเพียงขี้เถ้าหรือลูกไฟ หากลอยไปแล้วไปตกในอีกที่หนึ่งโดยสิ่งที่ลอยไปตกนั้นเป็นลูกไฟก็จะเกิดการลุกไหม้ได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน ประกอบกับมีเศษวัชพืชและเป็นป่าไผ่ ถ้าเกิดไฟแล้วจะดับยาก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าไฟป่าเกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ดังนั้น จึงวิงวอนให้ผู้ที่คิดจะกระทำได้ตระหนักถึงผลกระทบและความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย