xs
xsm
sm
md
lg

หัวหินถกด่วนรัฐ-เอกชน ตั้งศูนย์ฯ รับมือ “ไวรัสโคโรนา” หวั่นกระทบท่องเที่ยวยาวถึงสงกรานต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - นายอำเภอหัวหิน เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เพื่อตั้งศูนย์ประสานงานวางมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ระบุหญิงชาวจีนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ



วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ห้องประชุมพูลสุข สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานประชุมสรุปสถานการณ์การป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน อ.หัวหิน โดยมี นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วย นายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล ว่าที่ ร.ต.กรกฎ โอภาส รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นางรสสุคนธ์ เลื่อนศักดิ์ รักษาการ ผอ.กองการแพทย์ ตัวแทนจากสายการบิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธร ตลอดจนตัวแทนโรงแรม รีสอร์ต ศูนย์การค้า ร้านอาหารในอำเภอหัวหินเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีข้อมูลพบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงชาวจีน เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยเป็นระดับผู้บริหารของโรงพยาบาล เดินทางพร้อมเพื่อนหญิง มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเช่าเหมารถแท็กซี่ให้มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหัวหิน เพื่อท่องเที่ยว และมาพบกับเพื่อนชาวจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่หัวหิน

จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม 2563 หญิงชาวจีน อายุ 73 ปี มีอาการป่วยเป็นไข้ และเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน หลังมีการตรวจอาการและทราบว่าเป็นชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น จึงรายงานให้ทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหัวหิน และสำนักงานสารธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลหัวหิน ให้รับทราบ


หลังจากนั้น ทีมสอบสวนโรคจึงเดินทางมาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน และติดตามอาการพร้อมเฝ้าระวัง และเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการในส่วนกลาง และขณะนี้ยืนยันว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีอาการดีขึ้น ส่วนเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันได้มีการจัดเจ้าหน้าที่และทีมสอบสวนโรคคอยติดตามอาการซึ่งล่าสุดพบว่าอาการยังปกติ

ด้าน นายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน กล่าวในที่ประชุมว่าตอนที่ชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางมาเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหัวหิน ตอนนั้นยังไม่พบมีอาการป่วย แต่หลังจากอยู่ได้ระยะหนึ่งจึงพบว่ามีอาการป่วย จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน เมื่อพบว่ามีอาการป่วยจึงต้องมีการเฝ้าระวัง โดยทางกระทรวงสาธารณสุขเรามีความตระหนักในการป้องกันและการแพร่กระจายเชื้อ

ดังนั้น ขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกในตรงนี้ เพียงแต่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากผู้ป่วยมาจากเมืองอู่ฮั่น เป็นเมืองที่มีผู้ป่วยเกิดขึ้นและเข้ามามีอาการไข้เกิน 39 องศาเซลเซียส ทำให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องเข้าไปควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรค

ในส่วนของผลการยืนยันว่าป่วยหรือไม่ป่วย ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ออกมาแถลงอีกครั้ง ณ วันนี้ยังไม่มีการยืนยันว่ามีผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนา


ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข ได้ดำเนินการควบคุมโรคเพื่อไม่ให้มีการแพร่กระจายไปสู่ชาวหัวหิน ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้คำแนะนำผู้สัมผัสต่างๆ ทั้งโรงแรม และที่โรงพยาบาล แต่ในส่วนผู้ป่วยเดินทางไปเที่ยวจุดใดบ้างของอำเภอหัวหิน ยังติดขัดปัญหาในด้านการสื่อสารทางภาษกันอยู่

ดังนั้น จึงฝากประชาชนชาวหัวหิน ว่าเราต้องตระหนักในการป้องกันตนเองในการป้องกันไข้หวัดธรรมดา เน้นมาตรการคือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคภายนอกเข้าสู่ตัวเรา

นายอำเภอหัวหิน กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการคือเรื่องของการรณรงค์ตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งที่ชาวจีนมักเดินทางไป ทั้งสถานีรถไฟหัวหิน ตลาดโต้รุ่ง เขาตะเกียบ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมกันออกรณรงค์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและขอให้ทุกคนช่วยกันป้องกันโดยการใส่หน้ากากอนามัย และบางจุดที่เป็นห้องน้ำสาธารณะ และที่สาธารณะต่างๆ จะมีการจัดติดตั้งเจลล้างมือ

รวมทั้งให้ดำเนินการจุดตรวจวัดไข้เหมือนท่าอากาศยาน ซึ่งจุดนี้คงต้องให้ทางสาธารณสุขเนื่องจากจะมีเครื่องมือ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว

“ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันไวรัสโคโรนา อำเภอหัวหิน โดยหน่วยงานต่างๆ จะต้องรายงานผลความคืบหน้ามาที่ศูนย์ก่อนเวลา 17.00 น.ของทุกวัน โดยหลังจากนั้น นายอำเภอหัวหิน จะสรุปข้อมูลทั้งหมดเผยแพร่ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งสื่อมวลชน เพื่อเป็นข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง” นายอำเภอหัวหิน กล่าว


อย่างไรก็ตาม ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความกังวลในเรื่องของชาวจีนที่เดินทางเข้ามาที่หัวหิน และเข้าพักตามอพาร์ตเมนต์ บ้านพัก พูลวิลล่า ที่ไม่มีการแจ้งเข้ามาในระบบ ดังนั้น มาตรการทางกฎหมายในส่วนนี้ เจ้าของบ้าน ผู้ประกอบการ ผู้ครอบครองเคหสถาน จะต้องแจ้งคนต่างด้าวที่เข้าพักภายใน 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ที่คนต่างด้าวเข้าพักต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหากมีการตรวจพบว่าไม่มีการแจ้งเจ้าของบ้านจะถูกปรับ 2,000 บาท ส่วนโรงแรมตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท/คน

ด้าน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เราต้องใช้วิกฤตจุดนี้ให้เป็นโอกาส หัวหินมีทุนในท้องถิ่นที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศไทย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยการตรวจคัดกรอง ตอนนี้เรามีการตรวจคัดกรองที่ท่าอากาศยานหัวหิน เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ดังนั้น จุดท่องเที่ยวของอำเภอหัวหิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดโต้รุ่ง ห้างสรรพสินค้า ตลาดซิคด้า ควรจะต้องมีทีมคัดกรอง จัดเจ้าหน้าที่บูรณาการไปดำเนินการตรวจวัดไข้ ตามช่วงเวลาจุดไหนควรเป็นกลางวัน และจุดไหนควรเป็นกลางคืน ซึ่งดำเนินการในช่วงระยะเวลา 10 วัน หากไม่พบผู้ป่วยเพิ่มก็คงกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้

ว่าที่ ร.ต.กรกฎ โอภาส รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้บริษัททัวร์ในประเทศจีนได้หยุดให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา จากเดิมในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 3 แสนคนเข้าประเทศไทย พอเกิดเหตุการณ์ที่จะเรียกว่าวิกฤต 3 เดือน

นับจากนี้ประเทศจีนจะใช้มาตรการหยุดให้บริษัททัวร์ขาย แต่คนที่จะเดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่ม SME และนักธุรกิจ คาดว่าเราจะสูญเสียนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ล้าน 9 แสน 8 หมื่นคน ช่วงตั้งแต่ตรุษจีนถึงเดือนเมษายนนี้ หัวหินคงจะได้รับผลกระทบไปด้วย ชาวจีนจะหายไปมากกว่า 4,000 คน


เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทาง ททท.มีแนวทางที่จะต้องการสื่อสาร บางครั้งคนที่รับรู้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่จะเชื่อสื่อทางบุคคล หรือทางโซเชียลไปรวดเร็วมาก ดังนั้น.ตนเองเห็นด้วยกับแนวทางของสื่อมวลชนที่จะเสนอ ให้มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีอำนาจสามารถให้ข้อมูลข่าวสารได้เพียงท่านเดียว เหมือนกับเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แถลง เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารมีความถูกต้องมาจากหน่วยงานของภาครัฐที่เชื่อถือได้

ซึ่งทาง ททท.ประเมินว่า หากปล่อยไว้ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น จะส่งผลกระทบถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะข่าวที่มีการเต้าข่าว การแชร์ข่าวด้วยความสนุกสนาน จะเกิดผลกระทบต่อเมืองหัวหินในระยะยาว ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลทาง ททท.ว่าไปเที่ยวได้หรือไม่อย่างไร ทางเราเองยอมรับว่าให้ความมั่นใจไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง

ดังนั้น จึงเห็นว่าทางอำเภอควรที่จะจัดตั้งศูนย์ หรือการให้ข้อมูลที่ชัดเจน อย่างที่ผ่านมามีการให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยอยู่อีกโรงพยาบาล วันนี้พบว่าข้อมูลเป็นอีกโรงพยาบาล แต่สำนักข่าว หรือแต่ละช่องให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมือนกัน การปกปิดข้อมูลไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงหวังว่าการที่สื่อเสนอให้มีผู้มีอำนาจให้ข่าวนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่ดี หากในที่ประชุมเห็นด้วยก็จะดีเราจะได้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น