ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อ” เจ้าคณะตำบลดังโคราช เจ้าของโพสต์น้อยใจใส่ซองน้อย “200 ยังกล้าถวาย” เปิดใจยืนยันใส่ซอง 200 ไม่เหมาะ ขอให้เห็นใจพระ อ้างมีค่าใช้จ่ายต้องใช้เงิน ด้านญาติโยมชี้ทำบุญตามศรัทธา พระเรียกร้องไม่เหมาะ ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดตักเตือนทำตัวไม่เหมาะสม เล่นโซเชียลฯ ระวังโพสต์ทำพุทธศาสนาเสื่อมเสีย
วันนี้ (21 ม.ค.) กรณีโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่มีพระรูปหนึ่งโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “12/1/63 นิมนต์พระมาเทศน์ถวายรูปละ 4 พัน 5 พัน กล้าให้ ลิเกมาเล่นราคา 6 หมื่น กล้าให้ บัดเอาลูกมาบวชถวายพระคู่สวด 600 บาท ยังกล้าถวายหนอ นี่ก็บวชหน้าไฟ 2 ร้อยบาท ยังกล้าถวายอยู่หนอ คุณโยมเอ๋ย แบบนี้ใครมาขอบวชหน้าไฟ บวชหน้าอะไรก็แล้วแต่ ทีหน้าทีหลัง ไม่ต้องจัดซองมาถวายปัจจัยอะไรก็ได้ดอกโยมเอ๋ย ก็จะสงเคราะห์ให้โยมอยู่พระอุปัชฌาย์เป็นกันได้ง่ายๆ หรือ อย่าทำเป็นเล่นไป กว่าจะอบรมสอบผ่านได้มาไม่ได้ง่ายดอก ถ้างั้นพระทุกรูปได้เป็นพระอุปัชฌาย์กันหมดแล้ว เดี๋ยวจะบวชให้ฟรีๆ ไปเลย เอาแค่ข้าว น้ำ ภัตตาหารเช้า-เพล มาถวายเป็นเครื่องบูชา อาตมาคิดว่าอยู่ได้สบายเลยหนาโยมเอ๋ย” นั้น
ล่าสุด พระครูสุนทรปัญญาพิมล อายุ 61 ปี 40 พรรษา เจ้าคณะตำบลหนองตะไก้ และเจ้าอาวาสวัดหนองตะไก้ ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวเอง ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานบวชหน้าไฟให้แก่สามเณร หลังจากนั้นได้มีญาติโยมถวายซองแด่เจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ จำนวน 200 บาท ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวที่ญาติโยมถวายเพื่อเป็นปัจจัย ถือว่าไม่ให้เกียรติพระอุปัชฌาย์ หรือเจ้าอาวาส เพราะเจ้าของงานนั้นก็มีฐานะดี หากเป็นคนที่ยากจนไม่ถวายปัจจัยก็จะไม่ตำหนิอะไรเลย
“คนทั่วไปไม่รู้หรอกว่าพระก็ต้องใช้เงินเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันรถเวลาออกไปรับกิจนิมนต์ ค่าแรงงานคนมาตัดหญ้าที่วัด ค่าซ่อมบำรุงวัด และอื่นๆ อีกมากมาย ตามความเป็นจริงแล้วพระก็ไม่อยากได้เงินหรอก ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นอยากให้กลับไปย้อนคิดในมุมกลับกันว่าโลกทุกวันนี้อะไรก็เป็นค่าใช้จ่ายไปหมด จึงอยากให้ญาติโยมได้เข้าใจถึงเหตุผลนี้ด้วย สาเหตุที่โพสต์นั้นต้องการระบายออกมาเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายจะต่อว่าเจ้าภาพงานแต่อย่างใด แต่อยากให้เห็นใจพระบ้าง เพราะกว่าจะได้เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาสก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน” เจ้าคณะตำบลหนองตะไก้กล่าว
ด้านนางพิศ ดาจันทร์พันธ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านหนองตะไก้ ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวจากหลานชายเล่าให้ฟัง ว่าเจ้าอาวาสบ่นตัดพ้อเรื่องเงินใส่ซองน้อยจำนวน 200 บาท หลังจากไปบวชหน้าไฟให้แก่เณร ตนในฐานะชาวบ้านมองว่าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของหลวงพ่อที่มีการโพสต์ออกไปจนโลกโซเชียลฯ มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาทำให้วัดเสื่อมเสีย ถูกมองในแง่ลบ ซึ่งคนก็มีทั้งคนรวยและคนจนเวลาใส่ซองช่วยพระในการทำบุญก็แล้วแต่กำลังศรัทธาของญาติโยมที่จะไปถวาย พระจะมาบอกว่าให้ให้น้อยหรือใส่มากไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าภาพงาน เข้าใจว่าที่วัดก็มีค่าใช้จ่าย แต่ทางพระไม่สมควรที่จะมาโพสต์แบบนี้ ปกติเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นนิสัยดี เป็นพระนักพัฒนา ไม่เคยมีเรื่องกับชาวบ้าน แต่การกระทำดังกล่าวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ขณะที่พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว การโพสต์ลักษณะนี้ไม่ถือว่าผิดวินัย เพราะไม่มีบทบัญญัติวินัยใดๆ เขียนไว้ เพียงแต่ว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม ถือว่าเป็นโลกวัชชะ หรือโลกติเตียน ได้แจ้งไปยังเจ้าคณะอำเภอหนองบุญมากให้เรียกพระรูปดังกล่าวมาตักเตือน เพราะถือว่าเป็นถึงระดับพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะตำบลด้วย พร้อมกับฝากเตือนถึงพระสงฆ์ทุกรูปที่เล่นโซเชียลฯ ให้ระมัดระวังการโพสต์ข้อความต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมซึ่งจะส่งผลเสียต่อพระพุทธศาสนาได้