xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.พร้อมชุดปฏิบัติการกว่า 100 นาย ตรวจค้นเป้าหมายกว่า 10 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี - รอง ผบ.ตร.ปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการกว่า 100 นาย ทำการตรวจค้นเป้าหมาย กว่า 10 จุด ค้นหาเบาะแสโจรจี้ร้านทองลพบุรี

จากกรณีเกิดเหตุคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายใช้อาวุธปืนเก็บเสียงยิงเปิดทางใส่ชาวบ้านและพนักงานร้านทองทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน สาขาลพบุรี เพื่อชิงทองรูปพรรณในร้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย เหตุเกิดวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (15 ม.ค.) ที่โดมโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อ.เมืองลพบุรี พล.ต.อ.สุชาติ ธีรสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐพล ศุภรศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้ทำการปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กว่า 100 นาย เพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมายที่ขอหมายศาลกว่า 10 จุด ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ หลังจากสั่งการเสร็จ เวลา 06.00 น. กำลังทั้งหมดได้แยกย้ายกันทำงาน ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นตามจุดต่างๆ ได้วัตถุต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืน หรือสิ่งของที่คาดว่าคนร้ายใช้มาทำการตรวจสอบ ซึ่งในขณะรายงาน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นยังเข้ามาไม่หมด

เวลา 09.00 น. ที่ สภ.เมืองลพบุรี พล.ต.ต.ณัฐพล ศุภรศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ในขณะนี้การสืบสวนมีความก้าวหน้าพอสมควร แต่การที่จะออกมายจับผู้ต้องสงสัยต้องหาหลักฐานอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการผิดตัว ต้องทำแบบรัดกุม ต้องได้พยานหลักฐาน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนขวัญ และประชาชนสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกไปทำการตรวจค้นตามเป้าหมายที่ได้หมายศาล ไปทำการตรวจค้น ยังเข้ามาไม่หมด ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆ ที่ได้มาก็จะทำการตรวจสอบโดยละเอียด หลักฐานที่ได้มาจากการตรวจค้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืน หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องต้องทำการตรวจสอบโดยละเอียด ส่วนเรื่องตามโซเชียลที่ออกมาว่ามีการขอหมายจับคนร้าย และจับได้แล้วนั้นเป็นเรื่องโซเชียล ทางตำรวจขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ขอให้ติดตามข่าวจากตำรวจโดยตรง

พล.ต.ต.วิสนุ ปราสาทอง ผช.ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วนเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่สนามกีฬาพระราเมศวร ได้เดินทางไปประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองปราบปราม ที่โรงแรมเจอาร์ดี แกรนเพลส หมู่ 3 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังแต่อย่างใด ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ว่า ท่านได้รับคำสั่งจาก ผบ.ตร.ให้เดินทางมาติดตามผลการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงาน อย่างอื่นไม่มีอะไร

เวลา 13.10 น. ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ พ่อและแม่พร้อมด้วยสามี น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัวได้เดินทางไปทำพิธีลอยอังคารของ น.ส.ธิดารัฒน์ ทองทิพย์ และได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามความคืบหน้าในเรื่องการติดตามจับกุมคนร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่าในขณะนี้ ผลการสืบสวนงวดเข้ามาทุกขณะ คาดว่าจะจับกุมตัวคนร้ายได้เร็วๆ นี้ ขอให้ครอบครัวสบายใจได้ ส่วนที่กังวลใจคือ ข่าวหลายกระแสที่ออกมาทางโซเชียล ซึ่งทำให้สับสน ขอร้องอย่าปล่อยข่าวให้ตำรวจไขว้เขว ขอให้ข่าวที่เป็นความจริง

ซึ่งตนเองไม่ได้กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะเชื่อในความสามารถและการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับกุมคนร้าย เมื่อจับกุมคนร้ายได้ขอให้ประหารสถานเดียว เพราะการกระทำของคนร้ายเป็นที่โหดเหี้ยมมาก ทั้งครอบครัวตนเอง ครอบครัวของผู้ที่สูญเสียอีก 2 ครอบครัว รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บเองถ้าหายจากอาการบาดเจ็บยังไม่รู้ว่าจะเป็นปกติหรือไม่ ในเมื่อคนร้ายทำแบบนี้เป็นความโหดเหี้ยม ก็ไม่สมควรอยู่ร่วมกับคนในสังคม ขอให้ประหารสถานเดียว

ด้าน นายธนปพน เงินเมย อายุ 59 ปี นายกเทศมนตรีตำบลกกโก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ได้เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกรศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เพื่อเป็นตัวแทนให้แก่ นายชัยพงษ์ โพธิ์รัศมี อายุ 37 ปี หลานชาย แสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะมีการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวน เนื่องจากหลานชายมีอัตลักษณ์และมีอาวุธปืน ทำให้เกิดความสับสนในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิตของหลานชาย ซึ่งบ้านตนเองและหลานชายอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุและเป็นเส้นทางที่คนร้ายผ่าน

โดยก่อหน้านี้ หลังจากที่นายธนปพน เงินเมย นำหลานชายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตัวเองได้เดินลงมาจากห้อง และผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พาหลานมาด้วยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่ และเดินไป ต่อจากนั้นผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า นายชัยพงษ์ โพธิ์รัศมี หลานชายนายธนปพน เงินเมย ได้เดินทางมาพบตำรวจด้วยเช่นกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บดีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะให้สวมเสื้อกั๊กตำรวจ และนำตัวนายชัยพงษ์ ขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว เป็นการหลบผู้สื่อข่าว แต่สามารถถ่ายภาพไว้ได้เพียงคนเดียว

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อได้เดินทางไปยังบ้านนายชัยพงษ์ รัศมี เลขที่ 20/2 หมู่ 4 ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี บ้านของหลานชายนายกเทศมนตรีตำบลกกโก โดยพบกับ นายธนปพน เงินเมย พร้อมด้วยญาติ ซึ่งได้แสดงหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ว่าในขณะที่เกิดเหตุที่ห้างโรบินสันนั้น ตนเองกำลังเดินทางกลับมาจากที่ทำงาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในขณะที่เกิดเหตุเมื่อกลับมาถึงบ้าน แฟนได้โทร.มาบอกว่ามีเหตุปล้นทองที่ห้างโรบินสัน ซึ่งตนเองไม่ได้สนใจ แต่ได้โทร.หาแม่ และวันต่อมาก็ใช้ชีวิตตามปกติ

จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา ได้ข่าวว่ามีตำรวจมาสอบถามหาตน ซึ่งทำให้ตนเองไม่สบายใจ จึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนในเรื่องของการยิงปืนนั้นก็เคยยิง แต่เป็นปืนขนาด .38 ซึ่งเป็นของพ่อ และการแต่งกายก็ไม่เคยนุ่งกางเกงลายพราง และตนเองไม่เคยเป็นทหาร หรือการยิงปืนแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ ที่ทำงานจะมีการล้อเลียนว่าขาเป๋เหมือนคนร้ายตนเองก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมาทราบว่าตำรวจสงสัยตนเองจึงเกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงให้น้าชายคือนายกเทศมนตรีตำบลกกโก มาช่วยพาไปแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ






กำลังโหลดความคิดเห็น