เชียงราย - ผู้ค้ารายย่อยโวยยักษ์ใหญ่ขึ้นราคาสุกรมีชีวิตก่อนตรุษจีน-สงกรานต์ สูงกว่าราคากลางของสมาคมฯ ถึง 7 บาท/กก. แถมเจอกฎเหล็กห้ามเคลื่อนย้าย-นำหมูนอกพื้นที่เข้าเชียงรายซ้ำ ทำราคาเนื้อหมูหน้าเขียงพุ่งพรวด 40 บาทต่อกิโลฯ
วันนี้ (15 ม.ค.) นายกฤษณะ ชูศรี ผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการค้าสุกรมีชีวิตและชิ้นส่วนสุกร จ.เชียงราย ได้นำรายชื่อผู้ประกอบการในเครือข่าย 227 ราย เข้ายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย เพื่อให้ช่วยเหลือกรณีผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้นราคาสุกรจากเดิมเกินไป
โดยระบุว่าสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมและรักษามาตรฐานราคา ได้กำหนดราคากลางของสุกรพื้นที่ภาคเหนือครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 81 บาท แต่เอกชนรายใหญ่กลับกำหนดราคาซื้อขายสุกรมีชีวิตขึ้นสูงถึงกว่า 88 บาท หรือสูงกว่าราคากลางที่สมาคมฯประกาศเอาไว้ถึง 7 บาท ทำให้การซื้อขายสุกรในตลาดผันผวนและสูงเกินจริง กระทบโดยตรงไปยังผู้บริโภคที่จะต้องซื้อหมูแพงกว่าเดิม รวมทั้งมีการซื้อขายน้อยลงเพราะราคาสูงขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการรายย่อยจึงขอความร่วมมือทางจังหวัดฯ โดยเฉพาะสำนักงานการค้าภายใน หามาตรการช่วยเหลือด้วย
นายกฤษณะกล่าวว่า การขึ้นราคาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนเดือน ก.พ.นี้ และจะต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้คนจะต้องหาซื้อเนื้อสุกรกันเป็นจำนวนมาก แต่ราคาสุกรพุ่งสูงขึ้นทันทีถึงกิโลกรัมละ 7 บาท สุกรตัวหนึ่งเฉลี่ยน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ทำให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 700 บาท และราคาเนื้อหมูก็พุ่งสูงขึ้นเป็นกิโลฯละกว่า 160-170 บาท จากเดิม กก.ละ 120-130 บาท หรือเพิ่มจากเดิม กก.ละ 40 บาทแล้ว
และขณะนี้เชียงรายเป็นพื้นที่สีแดงในการเฝ้าระวังป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสกุร หรือเอเอสเอฟ ทำให้มีมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายสุกร ผู้ค้ารายย่อยไม่สามารถนำสุกรมีชีวิตจากนอกพื้นที่เข้าไปจำหน่ายได้เหมือนเดิม ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่กลับได้รับสิทธิ์นำเข้าสุกรเข้าพื้นที่เชียงราย ทำให้การซื้อขายแทบไม่มีการแข่งขัน กระทั่งมีการขึ้นราคาจากสุกรมีชีวิตจากเดิมกิโลกรัมละ 81 บาทเป็น 88 บาทดังกล่าว
ผู้ประกอบการจึงหวังว่าทางจังหวัดจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยอนุญาตให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อยสามารถนำเข้าสุกรมีชีวิตได้เหมือนเดิมและกำหนดราคาซื้อขายสุกรมีชีวิตให้เป็นไปตามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประกาศไว้ด้วย
วันเดียวกันนี้ กลุ่มผู้ประกอบการยังได้ไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงราย พาณิชย์ จ.เชียงราย และปศุสัตว์ จ.เชียงราย ได้รับเรื่องไว้พร้อมรับจะนำไปประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
