ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ผู้ว่าฯเชียงใหม่เน้นย้ำเข้มมาตรการสกัดปัญหาฝุ่นควัน ควบคุมห้ามเผาขยะเด็ดขาด ส่วนพื้นที่จำเป็นให้แจ้งและวางแผนบริหารจัดการเพื่อป้องกันก่อปัญหากระทบสุขภาพ พร้อมเปิดตัวแอพลิเคชั่น Air CMI
วันนี้(15 ม.ค.63) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดตั้งเป็นศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมศูนย์ฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหา พร้อมแถลงข่าวเรื่องการประกาศจังหวัดเชียงใหม่เรื่องกำหนดเขตควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดและมาตรการทางกฎหมายในการควบคุม รวมทั้งเปิดตัวแอพลิเคชั่น Air CMI ตามโครงการป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่นควัน ซึ่ง สำนักงานบเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) ได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมอนามัย และกรมประชาสัมพันธ์ โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควัน และแอพลิเคชั่น ซึ่งจะนำร่องในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจัยที่ควบคุมได้และปัจจัยที่ควบคุมไม่ เช่น สภาพอากาศ โดยในส่วนของปัจจัยที่ควบคุมได้นั้น สิ่งที่ทางจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามดำเนินการอยู่ ในการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควัน โดยเฉพาะการเผาในที่โล่งทุกชนิด ซึ่งมีการออกประกาศควบคุมและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับในการรับผิดชอบดูแลแล้ว เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของปัญหาให้ได้มากที่สุด ขณะที่ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ปัญหาได้มีการสั่งเตรียมพร้อมเรื่องการจัดเซฟตี้ โซน ไว้รองรับประชาชน และหน้ากากอนามัยสำหรับแจกจ่ายประชาชนกลุ่มเสี่ยงแล้ว ซึ่งจากมาตรการและแผนงานต่างๆที่วางไว้ ค่อนข้างมั่นใจจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
สำหรับการออกประกาศเรื่องกำหนดเขตควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดและมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หากในส่วนของการเผาขยะและเผาป่านั้น ห้ามอย่างเด็ดขาดและต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนของการเผาในพื้นที่ที่มีความจำเป็นนั้น ขอให้มีการประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะสามารถวางแผนบริหารจัดการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน ขณะเดียวกันยอมรับว่าไม่ใช่ทุกกรณีที่จะมุ่งบังคับใช้กฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น การเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เป็นต้น ซึ่งต้องพิจารณาในประเด็นการอยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยด้วย
ขณะเดียวกันนายเจริญฤทธิ์ กล่าวถึงแอพลิเคชั่น Air CMI ว่า ถือเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการช่วยประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวในการเข้าถึงและรับทราบข้อมูลคุณภาพอากาศ ตลอดทั้งการแจ้งเตือนสถานการณ์ โดยแอพลิเคชั่นนี้จะรวบรวมข้อมูลรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์จากเครื่องตรวจวัดของทั้งกรมควบคุมมลพิษและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ติดตั้งกว่า200จุดกระจายอยู่ทั่วทุกตำบลทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้ใช้จะได้รับข้อมูลคุณภาพอากาศจากสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดพร้อมข้อแนะนำการปฏิบัติตัว นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนสถานการณ์ได้ด้วย เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำไปใช้งาน.