เชียงราย - กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ จ.เชียงราย ร่วมกันจัดงาน “โคบาลล้านนา ครั้งที่ 2” นำโคเนื้อมาประกวดโชว์พ่อ-แม่พันธุ์ที่สมบรูณ์ เน้นขุนโคเนื้อพันธุ์ลูกผสมบีฟมาสเตอร์ ก่อนมีการเปิดเสรีไทย-ออสเตรเลีย
กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อใน จ.เชียงราย รวมตัวกันเป็นเครือข่ายโคเนื้อล้านนาเพื่อร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ การบริหารจัดการและการตลาดให้สามารถอยู่ได้มาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดทางกลุ่มเกษตรกรมีกำหนดจัดงาน “โคบาลล้านนา ครั้งที่ 2” เพื่อให้เกษตรกรแต่ละรายที่ขุนโคเนื้อนำมาประกวดกันและมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มอีกหลายรายการ
โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ม.ค.นี้ ที่บริเวณมุมสี่แยกแม่กรณ์ ถนนพหลโยธินต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยมีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนคือสำนักงานปศุสัตว์ จ.เชียงราย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.เชียงราย
นายสัตวแพทย์พืชผล น้อยนาฝาย รักษาการปศุสัตว์ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ภายในงานกำหนดให้มีการแสดงนิทรรศการเพื่อให้ความรู้จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงโคเนื้อ การจัดร้านหรือบูทแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าเกี่ยวกับการเลี้ยงโคเนื้อ การนำโคเนื้อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์มาจัดแสดงให้ดูความสมบูรณ์ ทั้งนี้กิจกรรมในวันที่ 10 ม.ค.จะมีการแสดงการล้มวัว ขุดเขา ตีหมายเลขหรือเบอร์โคแต่ละตัว การขว้างบ่วงบาศก์ การตัดเขาแบบรัดยาง การแต่งกีบโค การตอนโค ฯลฯ สำหรับพิธีเปิดจะจัดขึ้นในช่วงเย็นของวันแรกดังกล่าวท่ามกลางบรรยากาศของการจำหน่ายอาหาร ประกวดมิสคาวเกิร์ล การแสดงดนตรีจากวงแม่กก ฯลฯ
นายสัตวแพทย์พืชผลกล่าวว่า จากนั้นในวันที่ 11ม.ค.กำหนดให้มีกิจกรรมการประกวดโคเนื้อพันธุ์ลูกผสมยุโรป ทั้งเพศเมียและเพศผู้ในหลายช่วงอายุ รวมทั้งมีการประกวดโคเนื้อพันธุ์ลูกผสมบีฟมาสเตอร์ทั้งเพศเมียและเพศผู้ในหลายช่วงอายุเช่นกัน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสาธิตการทำอาหารจากเนื้อโคให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ชิม การประกวดหนูน้อยคาวบอย-คาวเกิร์ล การแสดงดนตรีจากนักร้องเพื่อชีวิต “อ้น” ธวัชชัย ชูเหมือน สำหรับวันสุดท้ายของการจัดงานจะมีการประกวดการปรุงอาหารจากผลิตภัณฑ์เนื้อโคคุณภาพด้วย
ด้านนายนเรศ รัศมีจันทร์ ประธานเครือข่ายโคเนื้อล้านนา กล่าวการจัดงานครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกรในภาคเหนือตอนบนเพื่อให้มีความสามัคคีกันจะได้ร่วมกันยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงจากเดิมให้ไปสู่การทำเป็นอุตสาหกรรมโคเนื้อ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดีขึ้นรวมทั้งเพื่อเตรียมรับการเปิดเสรีทางการค้าเนื้อโคระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ในปี 2564 นี้
ดังนั้น เกษตรกรในเครือข่ายจำนวน 350 ราย จะนำโคเข้าร่วมประกวดจำนวน 120 ตัว หลังจากที่ผ่านมาเกษตรกรในเครือข่ายโคเนื้อล้านนาได้มีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นโดยมีการพัฒนาสายพันธุ์โดยเฉพาะบีฟมาสเตอร์ซึ่งการผสมผสานที่ลงตัวเหมาะสำหรับประเทศไทย และมีการสร้างตลาดแบบเป็นระบบโดยมีการขึ้นทะเบียนโคแม่พันธุ์ของสมาชิกทุกตัวด้วยการฝังไมโครชิปซึ่งปัจจุบันมีรวมกันกว่า 2,000 ตัวแล้ว รวมทั้งมีการบริหารจัดการเลี้ยงให้ได้มาตรฐานและมีตลาดในประเทศที่มีพันธสัญญา มีราคาประกันที่แน่นอนด้วยการซื้อขายแบบชั่งน้ำหนักด้วย
