สระบุรี - ชุดปฏิบัติการสยบไพรี ร่วม ป.ป.ส.รวบเครือข่ายแก๊งค้ายา ฉายา “นักบิน รถแต่ง” คู่แข่งแฝดนรกคิสเนอร์ โดยทำการยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท เผยรับจ้างขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (7 ม.ค.) กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ปส.2 นำโดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามยุทธการสยบไพรี 63/4 เครือข่าย “นักบิน รถแต่ง” นำหมายค้นศาลอาญาที่ 1/2563 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 54/3 หมู่ 5 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
โดยมี นางคำปุ่น วงษ์พันธ์ อายุ 55 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ซึ่งเป็นมารดาของนายปัณณฑัต วงษ์พันธ์ อายุ 24 ปี หรือจิมมี่ หัวหน้าขบวนการยาเสพติด ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่เจ้าหน้าที่จับกุมตามหมายศาลอาญาที่ 512/2562 ลงวันที่ 3 ธ.ค.2562 พร้อมเพื่อนร่วมขบวนการอีก 2 คนตามหมายจับเลขที่ 513 และ 514/2562 ลงวันที่ 3 ธ.ค.2562 คือ นายธวัชชัย หรืออาร์ท แก้วมณี อายุ 23 ปี และนายณัฐพล หรือบิว ราชธานี อายุ 22 ปี
ผลการตรวจค้นพบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 800 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อต่างๆ รวม 5 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน บ้านและที่ดิน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดในวันนี้ ทั้งสิ้นประมาณ 25 ล้านบาท จึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534
ต่อมาวันเดียวกัน พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พร้อมฝ่ายความมั่นคง ผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงาน ปปง. เดินทางมาเพื่อแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในครั้งนี้
พล.ต.ท.วิสนุ และคณะ ได้สอบปากคำนายปัณณฑัต วงษ์พันธ์ หรือจิมมี่ หัวหน้าขบวนการรับว่า ได้ร่วมกับพวกรับจ้างขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในส่วนกลาง และ กทม. ได้ค่าจ้างครั้งละ 4 หมื่นบาท ทำมาได้ 4-5 ครั้งแล้ว และมีอาชีพทำไร่มันสำปะหลัง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเพราะขัดจากข้อเท็จจริงจากจำนวนของกลาง รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 1 ในจำนวนรถยนต์ที่ตรวจยึดไว้ได้เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน 8 กณ 1855 กทม. ภายในตกแต่งเครื่องเสียงมีมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ผนวกกับทรัพย์สินอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเบื้องหลังการทลายเครือข่ายยาเสพติด “นักบิน รถแต่ง” รายนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่ตอนในของประเทศไทย ได้ตรวจยึดยาไอซ์ น้ำหนัก 319 กก. พร้อมรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการะทำความผิด จับกุมได้ในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และ เมื่อเดือนตุลาคม 2562 ชุดจับกุมยังสามารถจับกุมและตรวจยึดเฮโรอีน น้ำหนัก 105 กก. และเคตามีน น้ำหนัก 300 กก. พร้อมรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ และสามารถขยายผลออกหมายจับกุมนายสามารถ แก้วสุวรรณ และนายใกล้รุ่ง เต็มทวี ได้พร้อมยาบ้าจำนวนประมาณ 6 ล้านเม็ด และไอซ์ หนัก 600 กก. ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาดำเนินคดี
โดยสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนสามารถทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่จับได้ภายหลัง คือนายปัณณฑัต นายธวัชชัย และนายณัฐพล เป็นเครือข่ายยาเสพติดเดียวกัน โดยเฉพาะนายปัณณฑัต เคยมีบทบาทและพยายามทาบรัศมีแก๊งยาเสพติดแฝดนรกคิสเนอร์ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สระบุรี ลพบุรี และภาคกลาง เมื่อแฝดนรกถูกเจ้าหน้าที่ และขบวนการยาเสพติดปิดบัญชีไปแล้ว ทำให้ นายปัณณฑัต ไต่เต้าตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำทีมขนยาเสพติดด้วยตนเอง และเชื่อมโยงกับผู้ค้ายาเสพติดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนสามารถจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้ จึงขยายผลสู่การจับกุมยึดทรัพย์ในครั้งนี้ ส่วนฉายา “นักบิน รถแข่ง” นั้น คงมาจาก นายปัณณฑัต หัวหน้าแก๊งตั้งตัวเป็นนักค้ายาเสพติดโดยการหาเครือข่าย “นักบิน” นำยาบ้าไปจำหน่าย เมื่อได้เงินมาจะนำไปแต่งรถ และ แข่งขันรถยนต์ พฤติกรรมการกระทำความผิดจะไปหาซื้อรถยนต์จากเต็นท์ย่านรัชดา นำมาใช้ขนยาเสพติดเพียงครั้งเดียวจะนำไปฝากเต็นท์ในตัวเมืองสระบุรีขายต่อทันที และเมื่อจะขนยาเสพติดครั้งใหม่ก็จะไปหาซื้อรถยนต์คันใหม่มาขนแทนโดยจะไม่ใช้รถคันเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมและต้องสงสัยของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
