MGR online - ตำรวจปราบปรามยาเสพติด แกะรอยรวบ 2 โจ๋โพสต์หลอกขายยาเสพติดผ่านโซเชียล รับเป็นผู้เสพ ไม่ได้จำหน่ายแค่โพสต์หลอกขาย พอได้เงินก็ปิดบัญชีหนี
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส. และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงผลจับกุมนายมูฮัมหมัดซอบรี ซาซู อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ ลว.4/2563 ลง 3 มกราคม 2563 และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ 1/2563 ลง 5 มกราคม 2563 สองผู้ต้องหาที่ใช้สื่อโซเชียลทวิตเตอร์โพสต์ภาพขายยาเสพติดทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม โดยจับกุมได้ที่ชุมชนบ้านเขาปิหลาย ม.14 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
พล.ต.ต.วัชระ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและยกให้เป็นวาระแห่งชาติ จึงสั่งให้บช.ปส. สืบสวนติดตามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดต่างๆ จนพบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ชื่อ “ขายยาบ้าทุกชนิด ต้องการเคมีตัวไหนทักมา” จนขยายผลไปถึงผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ “ขายยาตัวใหญ่” ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน และเพิ่งสร้างบัญชีขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 พบว่า มียอดผู้ติดตามกว่า 3,000 คน และได้โพสต์ภาพยาเสพติดต่างๆ พร้อมระบุราคา รวมถึงจัดส่งให้ทางพัสดุทั่วประเทศ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าบัญชีดังกล่าวมีนายมูฮัมหมัดซอบรี เป็นผู้เปิดใช้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และขอออกหมายจับต่อนายเอ นามสมมุติ ภายหลังเชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมและทราบว่า พวกตนไม่ได้จำหน่ายจริง เพียงแต่โพสต์ภาพยาเสพติดที่ตัวเองเสพ ไปหลอกขายให้กับผู้ที่สนใจซื้อ ก่อนให้โอนเงินเข้าบัญชีที่เปิดไว้ เมื่อได้เงินมาก็จะปิดหนีไปทันที ก่อนนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “โฆษณายาเสพติดให้โทษโดยมิได้รับอนุญาต” ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 ดำเนินคดี ก่อนขยายผลไปยังกลุ่มผู้ซื้อและผู้ลักลอบใช้ช่องทางโซเชียลขายยาเสพติดทางออนไลน์รายอื่นๆ
ด้านพล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายมูฮัมหมัดซอบรี ให้การว่าตนเองเป็นผู้เปิดบัญชีโอนเงิน โดยร่วมกับพรรคพวกเยาวชนหลายคน และมีนายเอ เป็นหัวโจก หลอกขายยาเสพติดดังกล่าว บางครั้งก็มียาเสพติดมาขายจริง บางครั้งก็ไม่มี ส่วนยาเสพติดที่ซื้อ ก็พบว่ามาจากในชุมชนเอง ทั้งนี้ จากการสอบปากคำนายเอ เป็นคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก และมีข้อมูลว่าเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่กำลังประสานข้อมูล นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านโซเชียลอยู่มาก ซึ่งตำรวจได้ติดตามเฝ้าระวังอยู่ตลอด รวมถึงยังมีชุมชนอีกหลายแห่งที่เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินการตรวจสอบจับกุม
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสกัดกั้น บช.ปส. ร่วมกับ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตรวจยึดยาบ้า 200,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเชฟโลเลต รุ่นออพตร้า สีฟ้า ได้ที่บ้านเลขที่ 133 ม.3 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ภายหลังได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดพบว่า มีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายา มาพักไว้ในพื้นที่ จ.นครปฐม จึงเร่งสืบสวนสกัดกั้น กระทั่งพบชาย 2 คน เดินหิ้วถุงปุ๋ยเข้าไปในบ้านพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายทั้ง 2 คนหลบหนีเข้าไปในบริเวณป่ารกทึบด้านหลังบ้านก่อนหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส. และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงผลจับกุมนายมูฮัมหมัดซอบรี ซาซู อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ ลว.4/2563 ลง 3 มกราคม 2563 และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ 1/2563 ลง 5 มกราคม 2563 สองผู้ต้องหาที่ใช้สื่อโซเชียลทวิตเตอร์โพสต์ภาพขายยาเสพติดทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม โดยจับกุมได้ที่ชุมชนบ้านเขาปิหลาย ม.14 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
พล.ต.ต.วัชระ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและยกให้เป็นวาระแห่งชาติ จึงสั่งให้บช.ปส. สืบสวนติดตามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดต่างๆ จนพบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ชื่อ “ขายยาบ้าทุกชนิด ต้องการเคมีตัวไหนทักมา” จนขยายผลไปถึงผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ “ขายยาตัวใหญ่” ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน และเพิ่งสร้างบัญชีขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 พบว่า มียอดผู้ติดตามกว่า 3,000 คน และได้โพสต์ภาพยาเสพติดต่างๆ พร้อมระบุราคา รวมถึงจัดส่งให้ทางพัสดุทั่วประเทศ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าบัญชีดังกล่าวมีนายมูฮัมหมัดซอบรี เป็นผู้เปิดใช้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และขอออกหมายจับต่อนายเอ นามสมมุติ ภายหลังเชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมและทราบว่า พวกตนไม่ได้จำหน่ายจริง เพียงแต่โพสต์ภาพยาเสพติดที่ตัวเองเสพ ไปหลอกขายให้กับผู้ที่สนใจซื้อ ก่อนให้โอนเงินเข้าบัญชีที่เปิดไว้ เมื่อได้เงินมาก็จะปิดหนีไปทันที ก่อนนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “โฆษณายาเสพติดให้โทษโดยมิได้รับอนุญาต” ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 ดำเนินคดี ก่อนขยายผลไปยังกลุ่มผู้ซื้อและผู้ลักลอบใช้ช่องทางโซเชียลขายยาเสพติดทางออนไลน์รายอื่นๆ
ด้านพล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายมูฮัมหมัดซอบรี ให้การว่าตนเองเป็นผู้เปิดบัญชีโอนเงิน โดยร่วมกับพรรคพวกเยาวชนหลายคน และมีนายเอ เป็นหัวโจก หลอกขายยาเสพติดดังกล่าว บางครั้งก็มียาเสพติดมาขายจริง บางครั้งก็ไม่มี ส่วนยาเสพติดที่ซื้อ ก็พบว่ามาจากในชุมชนเอง ทั้งนี้ จากการสอบปากคำนายเอ เป็นคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก และมีข้อมูลว่าเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่กำลังประสานข้อมูล นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านโซเชียลอยู่มาก ซึ่งตำรวจได้ติดตามเฝ้าระวังอยู่ตลอด รวมถึงยังมีชุมชนอีกหลายแห่งที่เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินการตรวจสอบจับกุม
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสกัดกั้น บช.ปส. ร่วมกับ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตรวจยึดยาบ้า 200,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเชฟโลเลต รุ่นออพตร้า สีฟ้า ได้ที่บ้านเลขที่ 133 ม.3 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ภายหลังได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดพบว่า มีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายา มาพักไว้ในพื้นที่ จ.นครปฐม จึงเร่งสืบสวนสกัดกั้น กระทั่งพบชาย 2 คน เดินหิ้วถุงปุ๋ยเข้าไปในบ้านพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายทั้ง 2 คนหลบหนีเข้าไปในบริเวณป่ารกทึบด้านหลังบ้านก่อนหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป