ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สธ.เขตสุขภาพที่ 9 ส่งทีมวิกฤตสุขภาพจิตเยียวยานักเรียนชั้น ป.4/4 จากเหตุการณ์เพื่อนทำปืนลั่นใส่บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เพื่อป้องกันโรคเครียดเฉียบพลันและโรคบาดแผลทางใจ เน้นดูแลพิเศษ 2 กลุ่ม แนะครู-ผู้ปกครองสังเกตอาการ
วันนี้ (7 ม.ค.) นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำเขตสุขภาพที่ 9 ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 (ป.4/4) ในโรงเรียนสุขานารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กรณีเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บจากถูกอาวุธปืนพกสั้นลั่นใส่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากการติดตามอาการของเด็กที่ถูกปืนลั่นใส่ล่าสุดวันนี้ (7 ม.ค.) เด็กปลอดภัยแล้ว อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีทีมของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมาและจิตแพทย์โรงพยาบาลมหาราชฯ ดูแลด้านจิตใจ รวมทั้งผู้ปกครองด้วย
นพ.พงศ์เกษมกล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลจิตใจเด็กนักเรียน ครูในโรงเรียนที่เกิดเหตุครั้งนี้ รวมทั้งผู้ปกครองด้วย ได้ส่งทีมวิกฤตสุขภาพจิต หรือทีมเอ็มแคต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) จากโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 จ.นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ให้การเยียวยา ปฐมพยาบาลทางใจร่วมกับทีมสุขภาพจิตของสำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อช่วยให้เด็กสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ ป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบรุนแรงทางจิตใจ
โดยเฉพาะ 2 โรคที่พบบ่อยหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤตคือโรคเครียดเฉียบพลัน (Acute Stress Disorder) และโรคบาดแผลทางใจหรือโรคเครียด หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (Post Traumatic Stress Disorder) ซึ่งอาจนำมาสู่ภาวะซึมเศร้า หรือส่งผลกระทบต่อการเรียนได้ โดยมุ่งเน้นเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ 2 กลุ่มคือ เด็กที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งมีจำนวน 4 คน และเด็กที่อยู่ในชั้นเรียนของเด็กที่บาดเจ็บซึ่งมี 30 กว่าคน
“ผลการตรวจประเมินสภาพจิตใจในเบื้องต้นพบว่าเด็กมีอาการตกใจอยู่บ้าง แต่ยังสามารถทำกิจกรรมในชั้นเรียนได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมเอ็มแคตได้ประชุมและวางแผนร่วมกับคณะครูของโรงเรียนแห่งนี้ โดยจะทำการตรวจประเมินสภาพจิตใจซ้ำในอีก 2 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ได้แนะนำให้โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนเด็กตามปกติ และแนะนำทั้งครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนให้สังเกตอาการผิดปกติของเด็ก เช่น หวาดกลัว สับสน กระวนกระวาย ฝันร้าย หรือมีภาพเหตุการณ์เดิมผุดขึ้นมาในใจ ตกใจง่าย มีอาการซึมเศร้า หรือมีอารมณ์พฤติกรรมก้าวร้าวต่างไปจากเดิม ไม่มีสมาธิในการเรียน มีปัญหาการนอน บางคนมีปัสสาวะบ่อย หากพบจะให้การดูแลจิตใจร่วมกันอย่างเต็มที่” นายแพทย์ พงศ์เกษมกล่าว
ทางด้าน นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคเครียดเฉียบพลันจะเป็นเร็วและหายเร็ว คือมีอาการเพียงช่วงสั้นๆ ประมาณ 2 วัน นานที่สุดไม่เกิน 4 สัปดาห์ แต่โรคบาดแผลทางใจนั้นจะมีอาการปรากฏหลังเหตุการณ์ไปจนถึงประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย อาการที่สังเกตเห็นได้ง่าย เช่น นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท หงุดหงิดง่าย ฝันร้ายหรือระลึกถึงเหตุการณ์ร้ายนั้นซ้ำๆ ตกใจง่าย หรือไม่ยอมเข้าใกล้สถานที่ที่ชวนให้นึกถึงเหตุร้ายนั้นซ้ำอีก ซึ่งหากเด็กได้รับการดูแลจิตใจอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ต้นก็จะสามารถป้องกันผลกระทบนี้ได้