ภาคกลาง - ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ยื่นหนังสือขอให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้เจ้าพนักงานอัยการพิจารณาไม่ยื่นอุทธรณ์นักวิชาการด้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ถูกฟ้องโดยพนักงานอัยการ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยการโพสต์ส่งต่อหรือแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ชั้น 2 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้เจ้าพนักงานอัยการพิจารณาไม่ยื่นอุทธรณ์ กรณี นายวุฒิ บุญเลิศ นักวิชาการด้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ถูกฟ้องโดยพนักงานอัยการ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยการโพสต์ส่งต่อหรือแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก
โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่า เมื่อพิจารณาเนื้อหาตามโพสต์แล้ว ผู้โพสต์มุ่งหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบการครอบครองไร่ชัยราชพฤกษ์ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ถือว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทตามฟ้อง
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอให้อัยการสูงสุดได้โปรดพิจารณาตรวจสอบและดำเนินการเพื่อให้พนักงานอัยการยุติการดำเนินคดีนี้ต่อไป โดยไม่อุทธรณ์คดี เพราะการดำเนินคดีดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะแต่ประการใด ทั้งยังก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความยากลำบากแก่ประชาชนที่ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือนักสิทธิมนุษยชน ที่เรียกว่าคดีปิดปาก หรือ Strategic Lawsuit Against Public Participation (SLAAP)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายวุฒิ เป็นชาวบ้านผู้ทำงานในเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เป็นงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง อันเป็นงานสาธารณประโยชน์ จนกระทั่งเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมได้รับการยกย่องให้ได้รับรางวัลยกย่องเป็นองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559
ทั้งนี้ นายวุฒิ บุญเลิศ เป็นผู้นำชาวกะเหรี่ยง มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันตก ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสภาทนายความและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีที่ในปี 2554 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในสมัยนั้น เข้าเผาบ้านและยุ้งฉางชาวกะเหรี่ยงหมู่บ้านใจแผ่นดิน และบางกลอยบน กว่า 100 หลัง
ต่อมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้สรุปการศึกษา มีรายงานและข้อเสนอถึงรัฐบาลว่า การกระทำเผาบ้านชาวกะเหรี่ยงโดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อีกทั้งปู่คออี้ หรือนายโคอิ มีมิ และชาวบ้านที่ถูกเผาบ้านได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อศาลปกครองด้วยการช่วยเหลือของสภาทนายความ ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ว่า หมู่บ้านใจแผ่นดินและบางกลอยบนเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม การกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่เผาบ้านและยุ้งฉางชาวบ้านเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวบ้านที่ฟ้องรายละประมาณ 50,000 บาท
ระหว่างเป็นคดีในศาลปกครอง นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ซึ่งเป็นผู้ช่วยสภาทนายความในการรวบรวมหลักฐานและประสานงาน ถูกนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ควบคุมตัว เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 แม้นายชัยวัฒน์ จะอ้างว่าปล่อยตัวไปแล้ว แต่การสอบสวนของตำรวจภูธรภาค และหลักฐานกล้องวงจรปิด กลับไม่พบการปล่อยตัว จนกรมสอบสวนคดีพิเศษสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเพื่อฟ้องนายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน ข้อหารร่วมกันฆ่าบิลลี่
ด้าน นายชัยวัฒน์ ได้แจ้งความต่อตำรวจมีนบุรี ว่า นายวุฒิ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยการส่งต่อหรือแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษายกฟ้อง โดยศาลเห็นว่าข้อความที่มีการโพสต์ตามที่นายชัยวัฒน์ กล่าวอ้างตามคำฟ้อไม่ได้กล่าวถึงหรือมีพยานหลักฐานใดที่จะทำให้วิญญูชน หรือประชาชนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นการกล่าวถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หรือเข้าใจได้ว่านายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองตามโพสต์ข้างต้น เป็นผู้ถือครองที่ดินแทนนายชัยวัฒน์ และเมื่อพิจารณาเนื้อหาตามโพสต์แล้ว ผู้โพสต์มุ่งหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบการครอบครองไร่ชัยราชพฤกษ์ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ถือว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทตามฟ้อง