MGR online - คดีฆาตกรรม กระเหรี่ยง “บิลลี่” ถึงมืออัยการ หลังพนักงานสอบสวนดีเอสไอ สรุปสำนวนการสอบสวน ส่งให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
วันนี้ (24 ธ.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารโดยระบุว่า "ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีการหายตัวไปของนายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตาม พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2561 โดยเป็นคดีพิเศษที่ 13/2562 ทางคดีมีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งพบชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะมนุษย์และ ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ถูกผ่านความร้อน บริเวณใต้น้ำกลางสะพานแขวนในเขตที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน โดยผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบคำให้การบุคคลที่เกี่ยวข้อง รับฟังได้ว่ากระดูกที่พบเป็นของนายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ และถึงแก่ความตายแล้ว
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในช่วงเวลาเกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วย นายบุญแทน บุษราคา, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และ นายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 คน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทาความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความผิด เกี่ยวกับการเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 นายชัยวัฒน์ กับพวก ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามหมายจับศาล ภายหลังการแจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำตัวบุคคลทั้งสี่ไปขออำนาจศาลออกหมายขังไว้ ระหว่างการสอบสวนและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยศาล ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คดีนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน แสดงข้อเท็จจริง และนำพยานหลักฐานที่พิสูจน์ว่าตนบริสุทธิ์มามอบ เพื่อให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษรวบรวมไว้ในสำนวนการ สอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย ภายในวันที่ 28 พ.ย.2562 แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงหรือหลักฐานใดเพื่อแก้ข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษแต่อย่างใด คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพยาน ด้านนิติวิทยาศาสตร์และพยานอื่นๆ จนเสร็จสิ้นและเห็นว่าการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงสรุปสำนวนการ สอบสวนพร้อมความเห็นเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการตาม กฎหมาย
บัดนี้ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็นทางคดีในเรื่อง ดังกล่าวแล้ว และเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.2562 ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในเรื่องนี้ พร้อมคณะ นำสำนวนการสอบสวนคดีนี้ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งผลกระบวนการสอบสวน แนะนำให้ข้อมูลและความช่วยเหลือกับผู้เสียหาย ตามปฏิญญาว่าด้วยหลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรม และการใช้อำนาจโดยมิชอบ (Declaration of Basic Principles of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power) ก่อนส่งสำนวนการสอบสวนแล้ว"