อุดรธานี-เปิดใจหนุ่มอุดรฯ เหยื่อแก๊งตบทรัพย์ ถูกหลอกให้ร่วมหลับนอนกับหญิงสาวป่วยพิการทางสมอง ก่อนโดนแม่ตบทรัพย์วันรุ่งขึ้นเรียกเงินถึง 250,000 บาท เผยสุดช้ำใจ ทั้งที่รักจริง เสียเงิน เวลา ทั้งต้องออกจากงาน วอนตำรวจล่าผู้ร่วมแก๊ง
จากกรณีแม่แท้ๆ พาลูกสาวัย 18 ปี รูปร่างหน้าตาดี แต่ป่วยพิการทางสมอง ออทิสติกระดับ 4 นำรูปขึ้นโปรไฟล์ในแชทหาคู่ ก่อนจะร่วมแก๊งพาลูกสาวไปส่งให้หลับนอนบำเรอกามกับชายหนุ่ม เมื่อมีคนตกเป็นเหยื่อก็จะแต่งชุดข้าราชการตุลาการศาลไปกรรโชคทรัพย์ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานีได้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยที่บ้านวันนี้ทั้งยาย ป้าและพ่อของนายธนากร ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นหลังรู้ว่าตำรวจสามารถจับแก๊งกรรโชกทรัพย์นี้ได้ พร้อมกับนำรูปถ่ายในงานหมั้นของหลานชายกับลูกสาวของน.ส.กัญญณัฏฐ์ ที่บ้านใน อ.น้ำโสมให้ผู้สื่อข่าวได้ดู
นายธนากร หรือ “แซ๊ค” เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้น ตนได้ใช้โปรแกรมแชทหาคู่ในอินเตอร์เน็ต และรู้จักกับน.ส.บี โดยพูดคุยเหมือนน้องเขาคุยปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าแม่เขาเป็นคนสร้างเรื่อง และพูดคุยเองตอนแรกยังไม่รู้ว่าน้องเขาป่วยพิการทางสมอง หลังจากไปร่วมหลับนอนแล้ว เช้าวันต่อมา ก็มีผู้หญิงใส่ชุดข้าราชการประมาณ 3-4 คน มาที่บ้าน หนึ่งในนั้นบอกว่าแม่ของน.ส.บี ทั้งป้าและยายก็ตกใจ และพูดว่าตนเองไปร่วมหลับนอนกับลูกสาวเขาอายุเพียง 16 ปี ต้องรับผิดชอบไม่อย่างนั้นสามีที่เป็นตำรวจจะเอาเรื่อง ทางญาติเลยตัดสินใจขอพูดดีๆ และรับปากจะไปหมั้นและทำพิธีแต่งงานให้หลังจากน้องเขาจบการศึกษาแล้ว
โดยแม่เขาเรียกเงิน 300,000 บาท ทางยายและญาติของตนเองต่อรองให้เหลือ 250,000 บาท วันที่ 4 มิ.ย.ได้ไปวางเงินมัดจำ 50,000 บาทและวันที่ 8 มิ.ย.ก็จัดพิธีหมั้นและจ่ายเงินที่เหลือ 200,000 บาท มีพิธีผูกข้อต่อแขน มีญาติผู้ใหญ่ของตนไปหลายคน แต่ก็ผิดสังเกตที่บ้านเขาไม่มีญาติถึง 10 คนมาร่วมพิธีด้วย พอพิธีหมั้นเสร็จตนเองก็อยู่ที่บ้านเขา 2 วัน เริ่มผิดสังเกตหลายเรื่อง
จนมีคนข้างบ้านมาสะกิด บอกว่าตนโดนหลอกนะ เพราะมีผู้ชายเจอแบบนี้หลายราย จึงได้ออกอุบายบอกกับทางแม่ยาย ว่าจะกลับไปเอาใบขับขี่ที่บ้านอ.หนองหาน จากนั้นก็ออกมาเลย และมารู้ความจริง จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมขบวนการนี้ได้สำเร็จ
“ตอนนี้รู้สึกเจ็บใจ เสียใจมาก ไม่คิดว่างานหมั้นครั้งแรกของตนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะชีวิตไม่เคยผ่านงานหมั้นงานแต่งมาเลย ยอมรับว่าพร้อมรับผิดชอบน้องเขา แต่มาเจอเรื่องแบบนี้คงไม่เอาอีกแล้ว รู้สึกเสียใจ เสียทั้งเงิน เสียทั้งงาน เพราะต้องลาออกจากงานด้วย ส่วนทางยาย ป้า และพ่อก็เสียใจ เงิน 250,000 บาทต้องไปหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาทั้งหมด ตอนนี้อยากได้เงินคืน อยากให้ตำรวจตามจับคนในขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมด”นายธนากร กล่าว