สระแก้ว - นปท.1 กองกำลังบูรพา ติดป้ายเตือนประชาชนใช้เส้นทางเลี่ยงเขาช่องตะกิ่วชายแดนไทย-กัมพูชากลับภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคอีสาน ระวัง"ดงระเบิด" สมัยสงครามเขมร 3 ฝ่าย ย้ำปฏิบัติตามคำแนะนำเคร่งครัด
วันนี้ ( 27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา ของประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 ว่าเริ่มคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เส้นทางบริเวณเขาช่องตะโก ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงถนนสายยุทธศาสตร์ช่องเขาตะกิ่ว บ้านทับทิมสยาม 03 จ.สระแก้วไปยังเส้นทาง อ.โนนดินแดง-ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ภาคอีสานตอนล่างที่เริ่มมีจำนวนรถยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นกู้ระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 (นปท.1) กองกำลังบูรพา ได้ทำป้ายแจ้งเตือนประชาชนซึ่งมีสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีแดงมาติดตั้งตลอดเส้นทางสี่แยกถนนสาย 485 เลี้ยวขวาไปบ้านโคกเพ็กเพื่อเข้าสู่ถนนศรีเพ็ญ เลาะตะเข็บแนวชายแดนผ่านบ้านทัพเสรี ไปยังบ้านทับทิมสยาม03 ก่อนขึ้นเขาช่องตะกิ่ว ข้ามเขตไปยัง จ.บุรีรัมย์ ความยาว 17 กิโลเมตร
โดยเมื่อ 40 ปีก่อนพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสนามทุ่นระเบิดเมื่อครั้งสงครามล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรสามฝ่าย และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเก็บกู้วัตถุระเบิดของหน่วยฯ โดยเฉพาะจุดที่อยู่ระหว่างการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บ้านทัพเสรี ต.ทัพไทย ไปจนถึงเชิงเขาช่องตะกิ่ว ที่มีป้ายห้ามไม่ให้ประชาชนลงไปเดินหรือจอดรถริมถนนฝั่งติดชายแดนประเทศกัมพูชาในจุดที่มีป้ายสัญลักษณ์โดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย
ขณะที่ นายอนันชัย พูพิลึก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพไทย อ.ตาพระยา ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าวบอกว่า ประชาชนยังสามารถใช้เส้นทางหมู่บ้านเพื่อไปยังบ้านทับทิมสยาม 03 ที่ไม่ผ่านดงระเบิดได้ตามปกติ แต่ถนนอยู่ระหว่างการก่อสร้างจึงอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกมากนัก
“ ส่วนเส้นทางแนวชายแดน หากประชาชนขับรถผ่านเข้าไปก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่และไม่ควรจอดรถลงไปในจุดที่มีป้ายแจ้งเตือนทุ่นระเบิดโดยเด็ดขาด ทั้งนี้คาดว่าปีหน้ากรมทางหลวง น่าจะได้งบประมาณในซ่อมแซมถนนใหม่ทั้งสาย และหากประชาชนเรียกร้องให้มีการเปิดเส้นทางถาวรในอนาคตก็เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ใช้เดินทางสู่ภาคอีสานได้มากขึ้น” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพไทย กล่าว
เช่นเดียวกับ นายสุรศักดิ์ พรมสู ชาวบ้านทัพไทยซึ่งเป็นผู้ประสบภัยเหยียบกับระเบิดคนล่าสุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาที่บอกว่า อยากแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวว่าให้ระมัดระวังและไม่ควรเดินเข้าไปในจุดที่มีป้ายแจ้งเตือน ซึ่งตนเองในฐานะคนพื้นที่แม้ว่าจะใช้เส้นทางอยู่เป็นประจำยังพลาดเหยียบกับระเบิดจนขาขวาขาด จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องการใช้เส้นทางเลี่ยงดังกล่าวของประชาชนคือ จำนวนรถยนต์ที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ไม่สามารถใช้เส้นทางเขาช่องตะโกได้ และพากัน หันมาใช้เส้นทางเลี่ยงจนทำให้การจราจรเคลื่อนตัวช้าหรือหากเกิดรถเสียบนภูเขาก็อาจทำให้เกิดปัญหารถติดสะสม
จนทำให้ผู้ใช้รถลงมาเดินบนถนนเพื่อปัสสาวะหรือเดินเล่นริมข้างทางเพื่อรอให้รถระบาย จนอาจหลงเข้าไปเหยียบจุดที่มีทุ่นระเบิดได้ จึงขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด
กองทัพบก สั่งทหารดูแลประชาชนตลอด 24 ชม.
ด้าน กองทัพบก ได้สั่งการให้กองกำลังบูรพา จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งจุดบริการประชาชนบริเวณหน้าหน่วยและเส้นทางคมนาคมสำคัญตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตั้งเป้าการเกิดอุบัติเหตุเป็นศูนย์ โดยมี พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เข้าตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยบริเวณจุดตรวจหนองกุง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร และยังมีบริการน้ำดื่ม ชา กาแฟ และการให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ในเบื้องต้นด้วย