สระแก้ว - ทหาร นปท.1 กองกำลังบูรพา พร้อม จนท.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ร่วมทำลายทุ่นระเบิดดักรถถังห่างตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เผยตั้งแต่ปี 43 ถึงปัจจุบันเก็บกู้ได้แล้ว 100 ล้าน ตร.ม. ยังเหลืออีก 3 อำเภอ คาดปี 66 เก็บกู้ได้หมด
จากกรณีที่ พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 (นปท.1) ได้รับรายงานจากกองร้อยทหารพรานที่ 1205 ว่า มีชาวบ้านในพื้นที่บ้านดงงู ต.ปาไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบวัตถุระเบิด จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากถนนศรีเพ็ญ ประมาณ 600 เมตร และห่างจากตลาดโรงเกลืออรัญประเทศ ประมาณ 2-3 กิโลเมตร
จึงสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 นำโดย พ.ต.ณัฐพล ไกรวาล รอง ผบ.หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 พ.ต.ธรรมศักดิ์ ถ้วยทอง ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1205 ร.ท.เชี่ยวชาญ แสงแก้ว หัวหน้าชุดแจ้งเตือนและข่าวสาร หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 กองกำลังบูรพา ร.อ.ประสงค์ ชมโลก อาจารย์ ผสท.กศ.รร.ช.กช. เข้าทำการพิสูจน์ทราบจนพบว่าเป็นทุ่นระเบิดดักรถถังขนาดกลางชนิด M2
และจากการสำรวจพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียดยังตรวจพบทุ่นระเบิดดักรถถังชนิดเดียวกันเพิ่มอีก จำนวน 2 ทุ่น รวมเป็น 4 ทุ่น แต่ที่ผ่านมาสามารถเก็บกู้พร้อมทำลายระเบิดได้เพียง 1 ทุนเท่านั้น
วันนี้ (19 ธ.ค.) พ.ต.ณัฐพล ไกรวาล รอง ผบ.หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำลายทุ่นระเบิดที่เหลืออีก 3 ทุ่นด้วยวิธีการ BURN ซึ่งเป็นไปในลักษณะการเผาดินระเบิดให้หลอมละลายเสื่อมสภาพแทนการระเบิดที่สมบูรณ์ เพี่อไม่ให้เกิดระเบิดและถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
โดยจุดทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 500 เมตร และเพื่อเป็นการป้องกันความตื่นตระหนกและการเข้าใจผิดของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน กองกำลังบูรพา ยังได้ประสานไปยังสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ของประเทศกัมพูชา เพื่อแจ้งเตือนประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดบันเตียเมียนเจย และพื้นที่ใลก้เคียงเพื่อให้รับทราบ
พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของทุ่นระเบิดที่ตกค้างในพื้นที่และการทำลายทุ่นระเบิดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
แต่ยังพบว่าการเก็บกู้ด้วยวิธี BURN สามารถทำได้เพียง 2 ทุ่นเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 1 ทุ่นไม่สามารถทำลายได้ จึงต้องมีการทำลายด้วยการจุดระเบิดทำลายทิ้งตามปกติ
รอง ผบ.หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 กองกำลังบูรพา ยังกล่าวอีกว่า ในอดีตบริเวณดังกล่าวมีผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแล้วหลายราย แต่ก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและกองกำลังบูรพา เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติเสมือนคนทั่วไป โดย จ.สระแก้ว มีผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด จำนวน 238 ราย
อย่างไรก็ตาม นปท.1 สามารถสำรวจและเก็บกู้ระเบิดจากพื้นที่สนามทุ่นระเบิดใน จ.สระแก้ว ตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบันได้แล้วจำนวน 100 ล้านตารางเมตร ขณะนี้เหลือเพียง 6 ล้านตารางเมตรที่ยังมีระเบิดหลงเหลือในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ โคกสูง และตาพระยา และคาดว่าจะสามารถเก็บกู้ได้แล้วเสร็จในปี 2566
“หากบริเวณใดพบทุ่นระเบิด หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ 1 จะเข้าดำเนินการเก็บกู้โดยทันที พร้อมกับกันพื้นที่และติดป้ายแจ้งเตือนสีแดง รูปหัวกะโหลก เขียนคำว่า "อันตราย วัตถุระเบิด" และเมื่อประชาชนเห็นป้ายแจ้งเตือนดังกล่าวก็ขออย่าเข้าไปในพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด” รอง ผบ.หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 กองกำลังบูรพา กล่าว