สระแก้ว - เหิมหนัก! ขบวนการลอบนำเข้าข้าวจากกัมพูชาเทข้าวประท้วงทหารไทย เหตุไม่พอใจถูกจับพร้อมยึดของกลาง 28 ตัน หลังหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กกล.บูรพา สนธิกำลังสกัดจับบริเวณช่องทางธรรมชาติเผยทำเป็นขบวนการ มีนักการเมืองท้องถิ่นหนุนหลัง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้สนธิกำลังเข้าสกัดจับพ่อค้าและนายทุน ที่ลักลอบนำข้าวเปลือกจากฝั่งกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ช่วงคืนที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวนาในพื้นที่ว่า ข้าวเปลือกที่ลักลอบนำเข้าจากกัมพูชา ส่งผลต่อราคารับซื้อข้าวในประเทศไทยที่มีราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่สินค้าประเภทข้าวเปลือก ถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าเด็ดขาด
โดยการกวดขันจับกุมบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ตาพระยา และ อ.โคกสูง จ.สระแก้วทั้งในช่วงคืนที่ผ่านมาและช่วงเวลาอื่นๆ นั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่า กลุ่มพ่อค้าชาวไทยและขบวนการขนข้าวจากกัมพูชา มักใช้ช่องทางธรรมชาติ และจะลักลอบขนตั้งแต่ช่อง ต.03 ไปจนถึง ต.19 ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย
และจากการส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสกัดจับในช่วงกลางดึกวานนี้ เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับและตรวจยึดรถยนต์บรรทุกข้าวเปลือกจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้หลายคัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังการจับกุมและตรวจยึดของกลาง นายอาระยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังได้รับรายงานว่าเกิดการถกเถียงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร และพ่อค้าที่ลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกยึดรถและข้าวเปลือก ซึ่งกลุ่มพ่อค้าชาวไทย ยังได้นำข้าวเปลือกมาเทกองบนถนนเพื่อปิดเส้นทางสัญจรบริเวณทางไปยังด่านช่องตาพระยา-บึงตะกวน ประเทศกัมพูชา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้นำรถบรรทุกเข้าทำการเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกของกลางที่ถูกเทลงบนถนนไปเก็บรักษาไว้เพื่อตรวจสอบที่หน่วยเฉพาะกิจตาพระยาด้วย โดยมีรายงานว่า ขบวนการขนข้าวกัมพูชาเข้าประเทศไทยเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ทั้งก่อนและหลังฤดูการเก็บเกี่ยวในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการเคลียร์เส้นทางไว้แล้ว และโดยมากดำเนินการโดยผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่
และล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (9 ธ.ค.) นายอาระยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ฉก.ตาพระยา ชค.ตชด.12 สภ.ทัพไทย และเจ้าหน้าที่ศุลกากร จ.สระแก้ว ได้ร่วมเจรจากับกลุ่มผู้ลักลอบนำข้าวเข้าประเทศ โดยได้ข้อยุติ คือ เจ้าหน้าที่จะตรวจยึดข้าวเปลือกประมาณ 28 ตัน นำไปเก็บไว้ที่ศุลกากร จ.สระแก้ว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้รับเป็นเจ้าของ และจะคืนรถที่ใช้บรรทุกข้าวเปลือกให้แก่กลุ่มผู้ลักลอบที่รับจ้างเคลื่อนย้ายข้าวเปลือก ประกอบด้วย รถไถพ่วง จำนวน 4 คัน รถอีแต๊ก 2 คัน และรถยนต์กระบะอีก 1 คัน
แต่ปรากฏว่าภายหลังการเจรจา กลุ่มผู้ประกอบการประมาณ 10 คน ยังได้รวมตัวกันที่บริเวณทางเข้ากองบัญชาการ ฉก.ตาพระยา บริเวณหัวเขาเส้นทางสาย 348 ไป อ.ตาพระยา เพื่อขอเข้าพบและเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อขอคืนข้าวของกลางอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบผลการเจรจา
