ราชบุรี - เปิดคลิปเด็ด ทวี ชนแล้วไม่จอดของจริง ขณะที่กู้ภัยเผยไม่ฟ้องทวี ที่ใส่ร้ายให้เสียหาย เพราะเราทำงานการกุศล เป็นจิตอาสา ทางมูลนิธิจะไม่ทำการใดๆ ปล่อยให้สังคมและประชาชนเป็นคนตัดสินเอง
จากกรณีที่นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่มีนายปกิต ปรางจันทร์ อายุ 17 ปี เป็นผู้ขับขี่จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะพานข้ามคลองชลประทานสี่แยกสิบสองปันนา เขตเทศบาลโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา
วันนี้ (26 ธ.ค.) ในโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปเด็ดอีกคลิป เป็นคลิปจากกล้องหน้ารถในช่วงที่เกิดเหตุ และเจ้าของคลิปก็ขับรถไล่ตาม จนกระทั่งนายทวี ได้ขับรถกลับมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นคลิปภาพที่แสดงให้เห็นว่าหลังเกิดเหตุนั้นนายทวี ได้ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ โดยไม่ได้ลงมาดูคนเจ็บ และเชื่อว่าไม่ใช่การไปที่กลับรถตามที่นายทวี กล่าวอ้าง ซึ่งผู้ที่นำคลิปภาพมาลงไม่ต้องการที่จะแสดงตัวว่าเป็นใคร แต่ต้องการให้แค่เป็นหลักฐานเพื่อที่จะนำเสนอให้ประชาชนได้เห็นว่า เป็นการชนแล้วหนีจริง ไม่ใช่แค่ไปหาที่กลับรถ
ส่วนที่สำนักงานหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี โดยนายชวลิตร รัตนสุทธิกุล ประธานกู้ภัยเขต 4 นายไพทูรย์ รัตนพรวารีสกุล ประธานมูลนิธิสว่างระยอง นายวิสุทธิ์ บุญยศักดิ์เสรี ผู้ช่วยเลขานุการชมรมกู้ภัยสว่าง นายวิไล วงศ์ประเสริฐ ผู้จัดการหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี และผู้แทนหน่วยกู้ภัยและมูลนิธิในเครือและมูลนิธิต่างๆ จากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี หน่วยกู้ภัยสว่างเมธีธรรมสถาน สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยสว่างหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยสว่างแผ่ไพศาล ปราณบุรี หน่วยกู้ภัยสว่างพรระยอง หน่วยกู้ภัยสว่างมงคลปทุมธานี หน่วยกู้ภัยสว่างสรรเพชรเพชรบุรี และหน่วยกู้ภัยต่างๆ ได้จัดการประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปในการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีของนายทวี ไกรคุปต์ ที่ได้กล่าวพาดพิงถึงอุปกรณ์เครื่องปฐมพยาบาลของหน่วยกู้ภัยสกปรก และมีการเรียกรับผลประโยชน์การนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และถูกพาดพิงว่ามีการตัดต่อคลิปวิดีโอ การเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เบนซ์ ของนายทวี เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้บาดเจ็บนั้น
ในฐานะตัวแทนจากมูลนิธิกู้ภัยสว่าง ได้มาพูดคุยและได้ข้อสรุปว่า มูลนิธิกู้ภัยสว่างราชบุรี เป็นองค์กรการกุศล ทำความดีเชิดชูแผ่นดิน ดังนั้น ในเรื่องของการฟ้องร้อง ทางมูลนิธิจะไม่ทำ ปล่อยให้สังคมและประชาชนเป็นคนตัดสินเอง และในส่วนของเพจปลอมที่ออกมายั่วยุนั้น จะดำเนินการไปบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และขอยืนยันอีกครั้งว่าการช่วยเหลือคน กู้ภัยทุกท่านไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหน พวกเราช่วยทุกคน จะโกรธกัน หรือรักกัน ทางกู้ภัยช่วยเหลือเสมอกันทุกคนโดยไม่มีการแตกแยก สุดท้ายพวกเรากู้ภัยทุกหน่วย ทุกมูลนิธิ ตั้งมั่นอยู่ในความดีและการกุศล ถ้ามีการเรียกเงินทองทางกู้ภัยสว่างถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง