ลำปาง – เงินแผ่นดินตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้..ผู้ว่าฯลำปาง สั่งไล่ออก-ให้ออกแล้ว ทั้งผู้ใหญ่บ้าน-ผช.ผญบ.บ้านสบเติ๋น-แม่เมาะ ฐานทุจริตร่วมกับพวกเบิกเงิน กข.คจ.ไปใช้เกือบเกลี้ยงบัญชี แม้ชดใช้คืนครบแล้วแต่ยังมีความผิด
หลังจังหวัดลำปาง มีคำสั่งที่ 6362/2562 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2562 เรื่องลงโทษไล่ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบเติ๋น หมู่ที่ 2 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ออกจากตำแหน่ง ฐานปฎิบัติหรือละเว้นปฎิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วร้ายแรง ตามมาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ประกอบมาตรา 61 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป
ต่อมาวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ทางอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง ได้ติดประกาศอำเภอแม่เมาะ เรื่อง การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า ด้วยตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบเติ๋น หมู่ที่ 2 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ได้ว่างลง จึงกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ โดยให้ใช้ศาลาเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน หมู่ที่2 เป็นสถานที่ลงคะแนนเลือกผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใดประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านให้ยื่นใยสมัครด้วยตนเอง ณ ที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ ในระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น. ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ถึง 25 ธันวาคม (วันนี้) เป็นวันสุดท้าย และได้กำหนดการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในวันที่ 14 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ราษฎรในพื้นที่หากต้องการเพิ่มชื่อ ถอนชื่อให้กระทำได้ตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2562 ถึง 22 มกราคม 2563 เวลาราชการ ณ ที่ทำการอำเภอแม่เมาะ
นอกจากนี้นายนิมิตร ผดุงศิลป์ไพโรจน์ นายอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง ยังได้มีคำสั่งลงวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านสบเติ๋น ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ออกจากตำแหน่งรวมสองคน ตามผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบเติ๋นด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งว่า ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบเติ๋น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนหมู่บ้าน (กข.คจ) เมื่อปี 2551 ต่อจากอดีตผู้ใหญ่บ้านคนก่อนหน้าคือ นายประชัญ เปี้ยสืบ พร้อมกับบัญชีเงินฝาก ชื่อบัญชี “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนบ้านสบเติ๋น ม.2” มียอดเงินรวม 213,304 บาท พร้อมมีลูกหนี้ 11 ราย รวมยอดหนี้ 71,900 บาท
วันที่ 6 พ.ค.2551 ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ได้ร่วมเบิกเงินออกจากบัญชีโครงการฯ จำนวน 200,000 บาท วันที่ 3 มิ.ย.2551 ถอนจำนวน 10,000 บาท โดยมอบเงินให้คนที่ร่วมดำเนินการด้วย 20,000 บาท ส่วนตัวผู้ใหญ่บ้านเงินไป 190,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์โดยไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ยืม ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกนรรมการฯ และไม่มีการรายงานนายอำเภอทราบ
วันที่ 19 ม.ค.2553 ผู้ที่ร่วมดำเนินการได้นำเงิน 20,000 บาท คืนแก่ผู้ใหญ่บ้าน และนำเงินเข้าบัญชีโครงการฯ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจเบิกถอนเงิน เป็นผู้ใหญ่บ้านกับกรรมการอีก 2 จากนั้น 24 พ.ค.ก็มีการเบิกเงินออกจากบัญชีธนาคารไปใช้ 20,000 บาท
ต่อมา นายประชัญ เปี้ยสืบ อดีตผู้ใหญ่บ้านเกิดความสงสัยจึงขอตรวจสอบบัญชีโครงการฯ จนพบว่าเงินเหลือเพียง 4,000 บาท จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และมีการประชุมร่วมกัน กระทั่งผู้ใหญ่บ้านยอมรับสารภาพว่า ได้นำเงินของโครงการฯไปใช้ 210,000 บาท โดยขอผ่อนผันกับทางเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนฯว่าจะขอคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้เสร็จภายใน 2 ปี
กระทั่งมีการคืนเงินจนครบแต่ก็มิได้มีการลงโทษ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อครบวาระนายชนะชัยยังคงได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านเช่นเดิมโดยไม่มีการลงโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทางอำเภอ จังหวัด ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นอีกครั้ง และเห็นว่าผู้ใหญ่บ้านได้กระทำผิดทางละเมิด โดยเบิกถอนเงินจากบัญชีโครงการฯไปใช้ส่วนตัว เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้รับความเสียหายจึงออกคำสั่งให้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและปัจจุบันได้ชดใช้ครบถ้วนแล้ว
ซึ่งจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการหมู่บ้านและประธานคณะกรรมการโครงการฯ มีหน้าที่ในการบริหารจัดการโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่กลับร่วมกับพวก เบิกถอนเงินงบประมาณไปใช้ส่วนตัว โดยมีเจตนาจะไม่ปฎิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่กำหนด เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ประกอบมาตรา 61 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติปกครองท่องที่ พ.ศ.2457 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่ง ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2536 ให้ลงโทษผู้กระทำผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการไล่ออกจากราชการ
ทั้งนี้นายชนะชัยได้โต้แย้งแล้ว แต่สุดท้ายจังหวัดลำปาง ก็มีคำสั่งที่ 6362/2562 ลงวันที่ 11ธันวาคม 2562 ลงโทษผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวไล่ออกจากตำแหน่งในที่สุด