สระบุรี - ทรุดอีกแล้ว!! ถนนคันคลองชลประทานที่หนองแค เหตุจากแล้งจัด ชาวนาสูบน้ำเข้านา เกรงยวดยานพาหนะที่ผ่านไปมาจะได้รับอันตราย ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบและซ่อมแซมด่วน
วันนี้ (24 ธ.ค.) นางประยงศ์ พาสทิพย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีถนนคันคลองชลประทานชำรุดเกรงยวดยานพาหนะที่ผ่านไปมาจะได้รับอันตราย ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบและซ่อมแซมด่วนด้วย จึงได้แจ้งให้นายแปลก เทพรักษ์ นายอำเภอหนองแค พร้อมด้วยฝ่ายป้องกัน และนายอภิชัย ธีระรังสิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 พร้อมด้วย นายนิจ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสระบุรี ลงพื้นที่
จากการตรวจสอบพบถนนทางหลวงชนบทบริเวณเลียบคลองระพีพัฒน์ สาย ปท.3034 แยกทางหลวงหมายเลข 305 ถึงบ้านหนองแค (ตอนสระบุรีฝั่งซ้าย) อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วง กม.23+422 ถึง กม.23+472 ระยะทางประมาณ 50 เมตร ที่เกิดการทรุดตัว จากการลงพื้นที่พบว่า ถนนทรุดตัวประมาณ 1.80 เมตร สภาพถนนเสียหาย 1 ช่องจราจร สอบถามจากประชาชน เริ่มเกิดการทรุดตัวเมื่อประมาณ 06.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ในส่วนของการจราจรเบื้องต้นให้รถเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนสาย ปท.3036 คลองฝั่งขวา แทน
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการติดตั้งกรวยยาง ป้ายเตือน เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และทำการเปิดเส้นทางให้รถจักรยานยนต์และรถเล็กชาวบ้านผ่านบริเวณนี้ได้เท่านั้น จากนั้นจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้สามารถสัญจรได้ตามปกติโดยเร็วต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถนนทรุดตัวลง สืบเนื่องมาจากตรงบริเวณดังกล่าวเป็นเขตติดต่อกันเมื่อปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุถนนทรุดตัวมาแล้วเช่นเดียวกัน เหตุเพราะปีนี้อากาศแห้งแล้ง น้ำในคลองชลประทานมีน้อย ประกอบกับมีเกษตรกรทำนาปี ที่เลื่อนการเพาะปลูกมา เนื่องมาจากฝนแล้งในตอนช่วงฤดูกาลทำนาปี
ซึ่งขณะนี้ต้นข้าวกำลังตั้งท้อง เกษตรกรต่างตั้งเครื่องสูบน้ำเข้านาของตนเองกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็วกว่าปีก่อน เป็นเหตุให้ถนนลาดยางคันคลองชลประทานที่เคยมีน้ำเป็นแรงดันแนวถนนไว้ เมื่อน้ำแห้งประกอบกับมีรถบรรทุกหนักวิ่งจึงทำให้ผิวการจราจรทรุดตัวลง อย่างที่เคยเกิดเหตุในปีที่ผ่านมา
เบื้องต้น จะได้เร่งซ่อมแซมโดยการนำหินคลุกมาบดอัดให้รถสามารถวิ่งผ่านได้เป็นการชั่วคราวไปก่อน แม้ในช่วงนี้ทางการจะห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างใดๆ ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ก็ตาม หากขืนปล่อยให้รถหนักไปวิ่งอีกฝั่งหนึ่งแทน อีกไม่นานถนนอาจทรุดลงมาเหมือนถนนที่ทรุดในขณะนี้ก็เป็นได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต้องมีการเพิ่มเสาเข็มให้มากขึ้น