บุรีรัมย์- จ่อเพิกถอนใบอนุญาตและเอาผิดตามกม. สถานสงเคราะห์สัตว์ ของฝรั่งหัวร้อน ถูกร้องเรียนสั่งขังลูกจ้างในกรงสุนัข พร้อมตรวจสอบเอาผิดฐานทารุณกรรมและรักษาสัตว์โดยไม่ใช่ผู้มีวิชาชีพสัตวแพทย์ หลังมีคลิปว่อนโซเชียลฉีดยาฆ่าหมาตาย และหากเข้าข่ายประกอบกิจการโดยแสวงหาผลกำไรเอาผิดตามกม.คุ้มครองแรงงาน ด้วย
วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) ความคืบหน้ากรณีลูกจ้างชาวไทย 15 คน ทำงานในสถานสงเคราะห์สัตว์ “The Sound Of Animals” ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดียและแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านกรวด ว่าถูกนายจ้างชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวดุด่าข่มเหงจิตใจ ทั้งบังคับให้อยู่ในคอกสุนัขไม่ให้ออกมาจนกว่าจะถึงเวลาพักเพราะไม่พอใจหาว่าลูกจ้างอู้งาน บางคนถูกบังคับให้เข้าไปอยู่ในกรงกับสุนัขอ้างว่าเพื่อปรับตัวให้คุ้นเคยกับสุนัขที่จะต้องดูแล กระทั่งมีหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งล่าสุดวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด ได้เรียกลูกจ้างเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนร้องเรียนว่าชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าว มีพฤติกรรมทารุณกรรมสัตว์ และทำการรักษาสัตว์โดยไม่ใช่ผู้ที่มีวิชาชีพการสัตวแพทย์ ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปขณะชาวต่างชาติคนดังกล่าวใช้เข็มฉีดยาสุนัขและทำร้ายสุนัขด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2562 ทางปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านกรวด เพื่อเอาผิดกับชาวต่างชาติฐานกระทำผิด พ.ร.บ.วิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ.2545 เรื่องการรักษาพยาบาลสัตว์โดยไม่ใช่ผู้มีวิชาชีพการสัตวแพทย์ และ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่ากระทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา ต้องดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตสถานสงเคราะห์สัตว์ และเอาผิดตามกฎหมาย
ด้าน นายโคแนน ภูมิพันธุ์ เลขานุการสถานสงเคราะห์สัตว์ “The Sound Of Animals” ดังกล่าว ระบุว่า สาเหตุที่ลูกจ้างร้องเรียนผ่านโซเชียลฯ และแจ้งความเพราะต้องการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง จากการที่ถูกนายจ้างกระทำ และอยากให้นายจ้างปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาทรุนแรง เชื่อว่าหากมีการพูดคุยหรือทำความเข้าใจเรื่องคงจะไม่บานปลาย ส่วนกรณีที่ลูกจ้างระบุว่าถูกขังในกรงสุนัขนั้นตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพียงฟังคำบอกเล่าและดูจากรูปเท่านั้น แต่จากการสอบถามลูกจ้างบอกว่าหากสามารถพูดคุยกันได้ไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง แต่อยากให้นายจ้างปรับเปลี่ยนและมีสวัสดิการให้กับลูกจ้างตามสิทธิที่ควรจะได้รับด้วย
ด้าน นายณัฐดนัย นามมาลา นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสถานที่ดังกล่าว แจ้งขึ้นทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ แต่ต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า มีการดำเนินการในลักษณะที่แสวงหาผลกำไรหรือไม่ ส่วนหนึ่งรอผลทางคดีที่ปศุสัตว์ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหากมีหลักฐานว่าดำเนินการไม่ถูกต้องอาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต และหากพบว่าเป็นกิจการที่แสวงหาผลกำไรจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หลังจากนั้นจะตรวจสอบว่ามีการจ้างงานโดยถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นกระบวนการของกฎหมายแรงงานต่อไป