บุรีรัมย์ - ตำรวจคุมตัว “สมคิด” เดินสายทำแผนเส้นทางหลบหนีที่ รพ.บุรีรัมย์และสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ท่ามกลางแพทย์ พยาบาล ปชช.หลายร้อยแห่มุงดูเพราะอยากเห็นฆาตกรโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ฆ่าคนได้ถึง 6 ศพ เรียกร้องประหาร ขณะเจ้าตัวยังยิ้มได้ไม่สะทกสะท้าน ไร้เหตุวุ่นวาย
เมื่อเวลา 17.45 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4, กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น และ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้ควบคุมตัว นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง ผู้ต้องหาก่อคดีฆ่า นางรัศมี มุลิจันทร์ เหตุเกิดในท้องที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคาร 1 ตึกศัลยกรรมและศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดจอดรถจักรยานยนต์ ภายหลังจากก่อเหตุฆ่านางรัศมี และขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีมาจอดที่จุดดังกล่าว และเข้าไปนอนพักบริเวณที่พักญาติคนไข้ภายในโรงพยาบาล
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย ได้มีการกั้นพื้นที่ไม่ให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายังจุดทำแผนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ชุลมุน
เมื่อรถตู้ที่นำตัวผู้ต้องหามาถึง เจ้าหน้าที่ได้นำรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุมาจอดยังจุดที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าได้นำมาจอด ก่อนที่ผู้ต้องหาจะลงมาจากรถตู้เพื่อมาชี้จุดที่นำรถมาจอด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที จากนั้นผู้ต้องหาอ้างว่าได้เดินจากจุดจอดรถขึ้นไปนอนบริเวณที่พักญาติคนไข้ จนกระทั่งใกล้รุ่งเช้าจึงเดินเท้าไปที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายสมคิดไปทำแผนที่บริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ประมาณ 500 เมตร เมื่อไปถึงผู้ต้องหาได้เดินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟ เป็นขบวนรถธรรมดา เที่ยวล่อง ขบวนที่ 234 ต้นทางสถานีสุรินทร์ ปลายทางกรุงเทพฯ แต่ได้ซื้อตั๋วลงที่สถานีรถไฟอยุธยา รถไฟมาถึงสถานีบุรีรัมย์ เวลา 06.05 น. ออกจากสถานีบุรีรัมย์ เวลา 06.07 น. เพื่อหลบหนีไปที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่จุดนี้ใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาทีเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 จุดมีสื่อมวลชนหลายแขนงติดตามทำข่าว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเจ้าหน้าที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์มีประชาชนทั้งแพทย์ พยาบาล บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยมายืนดูเป็นจำนวนมาก ต่างอยากเห็นนายสมคิด พร้อมตะโกนว่าทำไมถึงได้เป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ ขณะที่นายสมคิดมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ดูเคร่งเครียดหรือกังวล บางช่วงยังยิ้มเหมือนไม่ได้สะทกสะท้าน ซึ่งการทำแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุชุลมุนวุ่นวายแต่อย่างใด
ขณะที่ประชาชนซึ่งไปเฝ้ารอการทำแผนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นายสมคิดเป็นบุคคลอันตราย และมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมผิดจากมนุษย์ทั่วไปเพราะฆ่าคนตายได้ถึง 6 ศพ จึงอยากให้โดนโทษประหารชีวิต เพราะหากติดคุกแล้วปล่อยออกมาจะกระทำเหมือนเดิมอีก เพราะขนาดติดคุกไปถึง 14 ปียังไม่สำนึก พ้นโทษออกมาก็ยังฆ่าคนตายอีก