นครสวรรค์ – ชาวไทยเชื้อสายจีนเตรียมพร้อมแต่งเมืองรับ 104 ปีตรุษจีนปากน้ำโพ เผยปีนี้จัดยาว 12 วัน 12 คืน เริ่ม 18 มกราฯ63 ภายใต้ธีมอัตลักษณ์ ประเพณี วิถีแห่งศรัทธา โชว์เต็มเส้นทางสายไหมของเราผสานเทคโนโลยีทันสมัย
ขณะนี้ท้องถนน-ร้านรวงต่างๆในนครสวรรค์ เมืองปากน้ำโพ ที่ถือเป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ เริ่มมีการตกแต่งประดับประดารับเทศกาล 104 ปีตรุษจีนปากน้ำโพ ซึ่งจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองกัน 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 18-29 มกราคม ที่บริเวณถนนศรีไกรลาส และถนนริมเขื่อนต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ในใช้ชื่องาน “อัตลักษณ์ประเพณี วิถีแห่งศรัทธา”
ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับตรุษจีนปากน้ำโพที่เล่าสืบต่อกันมาเป็นมุขปาฐะเริ่มต้นว่า “ชาวจีนเมื่ออพยพมาที่ใด มักอัญเชิญเทพเจ้าที่ตนนับถือมาด้วย ปากน้ำโพก็เช่นเดียวกัน ชาวจีนที่นี่นับถือเจ้าพ่อเทพารักษ์, เจ้าพ่อกวนอู, เจ้าแม่ทับทิม และเจ้าแม่สวรรค์ โดยเมื่อแรก มีการตั้งศาลเพียงตา สำหรับเป็นที่ประทับของเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ โดยตั้งขึ้น 2 ศาลคือ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศตะวันออกของตลาดปากน้ำโพ และศาลเจ้าแม่หน้าผา ริมฝั่งแม่น้ำปิงที่บ้านหน้าผา ขึ้นไปทางเหนือของตลาดปากน้ำโพ
ต่อมา ราว 100 ปีที่แล้ว ตลาดปากน้ำโพเกิดอหิวาตกโรคระบาดครั้งใหญ่ จนทำให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ชาวจีนในปากน้ำโพจึงได้หาทางออกตามวิถีความเชื่อ ด้วยการนำเอากระดาษฮู้ (ยันต์) จากศาลเจ้าไปเผา แล้วเอาเถ้ากระดาษมาชงน้ำดื่ม ปรากฏว่า สามารถทำให้หายจากโรคระบาดได้อย่างน่าอัศจรรย์ กลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว
ตั้งแต่นั้นมาชาวจีนในปากน้ำโพ จึงอัญเชิญองค์เจ้าพ่อเจ้าแม่ ทุกองค์แห่รอบตลาดในช่วงตรุษจีนของทุกปี จนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมานานกว่า 100 ปี และงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพในปี 2563 นี้ ถือเป็นปีที่ 104 ที่จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา
นายอิทธิ สุเมธโชติเมธา ประธานคณะกรรมการจัดงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ประจำปี 2562-2563 ได้มีการเปิดแถลงข่าวกันที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่หน้าผา เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ร่วมกับนายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ , นางจิตรา หมีทอง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด , นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้การสนับสนุนจัดงาน และประชาชนชาวปากน้ำโพ มาร่วมงานแถลงข่าวกันอย่างคับคั่ง
โดยระบุว่า ตรุษจีนปากน้ำโพ 63 : อัตลักษณ์ประเพณี วิถีแห่งศรัทธา นอกจากจะมีการจัดเวทีแสดงดนตรีจีน และการแสดงวัฒนธรรมไทยจีนร่วมสมัยทุกวัน รวมถึงมีซุ้มถ่ายรูปจุดต่างๆ บูธขายสินค้าและอาหารเหมือนเช่นทุกปีแล้ว ยังมีไฮไลท์สำคัญ คือ การจำลองหมู่บ้านจีนโบราณขนาดเท่าของจริง มาตั้งไว้บนถนนศรีไกรลาศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศบ้านจีนโบราณ ซึ่งจะมีมุมประตูเมือง และบ้านเรือนสวยๆ ให้คนที่ชื่นชอบการเซลฟี่ได้มาถ่ายรูปร่วมกับมังกร เอ็งกอร์ สิงโตคณะต่างๆ เก็บไว้ไปโพสต์อวดบนโลกโซเชียลฯได้อีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านถนนศรีไกรลาสเข้ามาจนถึงบริเวณหาดทรายต้นแม่น้ำเจ้าพระยา จะพบกับลานบุญแก้ชงสุดยิ่งใหญ่ตระการตา ขนาด 1,600 ตารางเมตร ขนาบข้างไปด้วยลานแสดงประติมากรรมทราย และเวทีการแสดงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีฉากหลังเป็นพาสาน Landmark แห่งใหม่ของนครสวรรค์ ซึ่งในแต่ละวัน ที่เวทีแห่งนี้ จะมีลูกหลานชาวนครสวรรค์จากสถาบันต่างๆ มาสลับผลัดเปลี่ยนทำการแสดง พร้อมกับมีศิลปินชื่อดังมากมายมาร่วมสร้างความบันเทิงด้วย
นายอิทธิ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมพิเศษสุดของงานในปีนี้ เป็นการผสานงานประเพณีคู่กับเทคโนโลยีอันทันสมัย ครั้งแรกในประเทศไทย กับกิจกรรม AR ขุมทรัพย์ 3 มิติ เพื่อลุ้นชิงรางวัลรถมอเตอร์ไซด์และโทรศัพท์มือถือ I Phone11 อีกทั้งยังเพิ่มเติมความสุขทั่วทั้งงาน กับกิจกรรม RC ค้นหาขุมสมบัติ เพื่อสะสมรับพวงกุญแจ 12 แบบ ตลอด 12 วัน 12 คืน และในงานนี้ได้รวบรวมร้านอาหารชื่อดังมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มท้องบนถนนวิถีนักชิม และอิ่มใจกับการช้อปปิ้ง บนถนนวิถีนักช้อป ตลอดเส้นทางสายไหมของเรา
ขณะที่การแห่ขบวนเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ รอบตลอดปากน้ำโพปีนี้ การจัดแห่ในช่วงกลางคืน หรือวันชิวซา จะมีขึ้นในวันที่ 27 มกราคม เริ่มขบวนแห่จากงานหน้าอาคารสำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ ส่วนการจัดแห่กลางวัน หรือวันชิวสี่ จะจัดขึ้นในวันต่อไปคือ 28 มกราคม จะเริ่มขบวนจากสี่แยกเดชาติวงศ์
“ขบวนแห่ทั้ง 2 วันดังกล่าว รับรองว่า ยิ่งใหญ่ตระกาลตาไม่แพ้ปีก่อนๆ เช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งขบวนสิงโต 5 ภาษา ขบวนเอ็งกอ-พะบู๊ ขบวนรถนางฟ้า ธิดามังกร ขบวนแห่องค์สมมุติเจ้าแม่กวนอิม ขบวนมังกรทอง เป็นต้น”
สำหรับงานเทศกาลตรุษจีนของชาวปากน้ำโพ นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมโบราณแล้ว ยังจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศพากันหลั่งไหลเข้าสู่เมืองนครสวรรค์ ซึ่งคนที่ได้มาท่องเที่ยว รับรองว่าจะต้องพบเห็นแต่สิ่งตระการตา อีกทั้งยังได้มาร่วมสักการะเจ้าพ่อเจ้าแม่ และเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ได้ชมอิทธิฤทธิ์ของมังกรทอง พร้อมแสง สี เสียง ที่ตระการตา และยังจะได้ชมลีลาการเชิดสิงโตอันเร้าใจด้วย
