กาญจนบุรี - ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเพิ่มโทษจำคุก "เปรมชัย" และพวก ล่าเสือดำป่าทุ่งใหญ่ฯ โดยนายเปรมชัย ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน โดยให้มีความผิดฐานเป็นตัวการพาคนไปล่าเสื้อดำด้วย ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเพิ่มโทษเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้ส่งหมายนัดไปยังคู่ความให้ไปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย ในเวลา 09.00 น.วันนี้ (12 ธ.ค.) ความผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่าสงวนคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต การครอบครองซากสัตว์ป่า รวมไปทั้งความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน
จากกรณีที่ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดวันที่ 4-6 ก.พ.61 คดีนี้หลังจากผ่านการสอบพยานโจทก์และจำเลยไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.61 ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยได้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีนี้ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.62 จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้พิพากษาคดีไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.62
โดยตัดสินลงโทษจำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จากดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน 2.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ 3.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน 4.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ ถูกลงโทษจำคุก 13 เดือน จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน
นอกจากนี้ ศาลสั่งสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ.2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.2562 อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรียื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น จนนำไปสู่การนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในวันนี้
ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 ธ.ค.) นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมทนายความได้เดินทางมาถึงศาลศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นได้เดินทางขึ้นศาลไปยังห้องพิจารณาคดีโดยไมได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ หลังจากนั้น เวลาประมาณ 09.30 น. นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อร่วมรับฟังคำตัดสินด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ จำนวน 25 นาย มาให้การดูแลอำนวยความสะดวก ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก
ทั้งนี้ หลังจากที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 ต่อมา นายสุนทร สุรวัฒนาวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 ได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาถ้อยคำ สำนวนและคำพิพากษาแล้วเสนอตามลำดับชั้นให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 เพื่อพิจารณามีความเห็นและมีคำสั่งคือ
1.นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน) อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
2.นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพ อุทธรณ์ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง) อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาล จ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน
3.นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
4.นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นการให้การรับสารภาพ อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ให้ลงโทษสูงขึ้น ฐานความผิดพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์ฯ ศาลจังหวัดทองผาภูมิลงโทษจำคุก 4 เดือน โจทก์เห็นว่าน้อยไป อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
นอกจากนี้ ประเด็นศาลพิพากษาให้คืนเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำ และรถยนต์แบบนั่งสองตอนของกลาง อุทธรณ์ขอให้ริบ (เห็นว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำผิด)
ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลมีคำพิพากษาเพิ่มโทษนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 เป็นจำคุก 2 ปี 14 เดือนไม่รอลงอาญา เพิ่มโทษ นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 เป็นจำคุก 2 ปี 17 เดือน เพิ่มโทษ นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 เป็นจำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 4 หมื่น โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี เพิ่มโทษ นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 เป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน และให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น