xs
xsm
sm
md
lg

โต้โผงานวิ่งปากน้ำโพรันนิ่ง ยืดอกรับผิด แจงไร้ประสบการณ์ทำงบบาน-ยันไม่มีโกง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ – ผู้คุมหนุ่มโต้โผจัดงานวิ่งการกุศลปากน้ำโพรันนิ่ง ยืดอกรับผิดคนเดียว-ไม่คิดโกง ตั้งโต๊ะแจงยิบไร้ประสบการณ์ทำงบบานปลายหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเงินไม่ถึง 2 หมื่น ลั่นพร้อมควักเนื้อหาถ้วย-เหรียญส่งให้ทุกคน 15 ธันวาฯนี้





กรณีกลุ่มนักวิ่งที่สมัครแข่งขันวิ่งการกุศลในรายการ Paknampo Running ครั้งที่ 1 ทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทีมผู้จัดงาน ในข้อหาฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน เนื่องจากการจัดงานไม่ได้มาตรฐาน ทั้งยังไม่มีถ้วยรางวัล และเหรียญที่ระลึก รวมถึงรางวัลอื่นๆ มามอบให้กับผู้เข้าแข่งขันตามที่โปรโมทไว้ จนมีการทวงถามความโปร่งใส่ผ่านโลกโซเชียลฯ

กระทั่ง ลุกลามไปถึงโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ที่ต้องออกมาแถลงชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงาน และยังไม่ได้รับเงินบริจาคตามที่ผู้จัดได้มีการอ้างว่าจะนำรายได้ส่วนหนึ่งมาบริจาคให้แต่อย่างใด

ล่าสุด วันนี้ (6 ธ.ค.) นายภูวเดช จันทรประดิษฐ์ ผู้คุมเรือนจำ จ.นครสวรรค์ ในฐานะโต้โผใหญ่ในการจัดแข่งขันวิ่งการกุศลในรายการ Paknampo Runnung ครั้งที่ 1 ได้ใช้ศาลาการเปรียญในวัดสันตู ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องราวที่เกิดปัญหาขึ้นทั้งหมด พร้อมนำหลักฐานรายได้และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดงานทั้งหมดนำมามอบให้กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว


นายภูวเดช กล่าวด้วยเสียงสั้นเครือ พร้อมกับยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากตนเองคนเดียว ที่ไม่เคยมีประสบการณ์จัดงานวิ่งแบบนี้มาก่อน จึงทำให้ประสบปัญหางบจัดงานบานปลายมาตั้งแต่ต้น โดยมียอดเงินเหลือจากการจัดแข่งขันวิ่งการกุศลครั้งนี้เพียง 17,452.30 บาทเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่เคยคิดโกงอย่างเด็ดขาด เพราะหากจะโกงจริง ต้องเชิดเงินรายได้จากค่าสมัครทั้งหมด 619,400 บาทไปตั้งแต่แรกแล้ว

นายภูวเดช ชี้แจงรายละเอียดต่อว่า ตนเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย และมักไปสมัครวิ่งแข่งขันตามงานที่จัดขึ้นในจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งอยากจะลองจัดการแข่งขันเองบ้าง เพราะมั่นใจความสามารถของตัวเองว่าจะจัดงานออกมาได้ดีมากกว่างานอื่นๆ จึงได้ไปขอคำแนะนำจากกลุ่มเพื่อนนักวิ่งต่างๆ ก่อนจะชวนให้มาช่วยเหลือเรื่องการเตรียมงานในวันเปิดรับสมัคร


กระทั่ง ได้ยอดผู้สมัครวิ่งทั้งหมด 1,240 คน มีเงินจากค่าสมัครจำนวน 619,400 บาท ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นเงินจำนวนมาก แต่พอมาตรวจสอบค่าใช้จ่ายทั้งชุดแข่ง ถ้วยรางวัล เหรียญที่ระลึก ค่าโฆษณาสื่อ รวมถึงค่าจัดสถานที่ อาหาร และน้ำดื่มในวันงาน กลับบานปลาย ไม่คาดคิดว่าจะต้องใช้เงินเยอะจนถึงขนาดเกือบต้องควักเนื้อตัวเอง จึงทำให้เกิดปัญหาความไม่พร้อมในหลายๆ อย่างขึ้น

“อย่างไรก็ตามยืนยันว่า หลังจากนี้แม้จะต้องชักเนื้อออกค่าใช้จ่ายเอง ก็จะส่งมอบถ้วยรางวัลและเหรียญที่ระลึกให้กับผู้สมัครทุกคนให้ทันภายในวันที่ 15 ธันวาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน”

เมื่อถามว่าทำไมไม่จ้างออแกไนซ์จัด นายภูวเดช ระบุว่าจำนวนนักวิ่งที่มาสมัครมีน้อย หากจ้างออแกไนซ์มาจัดจะทำให้มีค่าจัดงานสูงเกินกว่าค่าสมัครที่ได้ จึงตัดสินใจไปขอเพื่อนๆ ที่รู้จักกันให้มาช่วยเรื่องการเตรียมงาน ทั้งการจัดสถานที่ อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งรายจ่ายบางอย่างเพื่อนที่มาช่วยงานก็ต้องควักเนื้อจ่ายเองบ้าง แต่พวกเขาทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


“ผิดที่ตนคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งกำลังหาทางแก้ไขเพื่อให้เคลียร์ปัญหาไปได้ทั้งหมด”

ส่วนเรื่องคดีความที่มีกลุ่มนักวิ่งบางส่วนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับตนฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งตนไม่หนีอยู่แล้ว หากมีหมายเรียกมาเมื่อไหร่ ตนจะนำหลักฐานทั้งหมดเดินทางไปให้การกับตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้ฉ้อโกงตามที่ถูกกล่าวหา

ด้าน พ.ต.ท.สุทัศน์ ม่วงสุข สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าของคดีที่รับแจ้งความ เปิดเผยว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐานต่างๆ หากพบว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนตามที่กลุ่มนักวิ่งได้มาแจ้งความไว้จริง ก็จะเรียกตัวผู้จัดงานวิ่งการกุศลที่เกิดปัญหามาสอบสวน และดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น