ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ เวิลด์ คัพ 2018 ที่ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ ฝรั่งเศส ที่คว้ามาครองได้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1998 ด้วยการชนะ โครเอเชีย 4-2 ซึ่งก็ถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องจัด ทีมยอดแย่และน่าผิดหวังมาฝากกันภายใต้ระบบ 4-2-3-1
ประตู ดาบิด เด เคอา (สเปน)
* ผู้รักษาประตูที่ถูกขนานนามว่าเก่งที่สุดในโลก จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่กลับเซฟช่วยทีมชาติสเปนได้ครั้งเดียวเท่านั้น น้อยที่สุดในบรรดาผู้รักษาประตูทุกคนที่ได้เล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ และจากการยิงตรงกรอบของคู่แข่งทั้งหมด 6 ครั้ง เด เคอา ปล่อยให้บอลผ่านเข้าประตูไปถึง 5 ลูก พา สเปน ไปได้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
แบ็กขวา ดานิโล่ (บราซิล)
* ตัวแทนของ ดานี่ อัลเวส ที่เจ็บยาวไป แต่ ดานิโล่ ก็ไม่ต่างกัน ลงเล่นแค่นัดแรกกับ สวิตเซอร์แลนด์ เท่านั้น แล้วก็เจ็บยาวจนทีมตกรอบไป โดยเป็นแบ็กโนเนมอย่าง ฟากเนอร์ ลงสนามแทนในเกมที่เหลือ
เซ็นเตอร์ เคราร์ด ปิเก้ (สเปน)
* กองหลังมากประสบการณ์จาก บาร์เซโลน่า ที่มีช็อตน่าจดจำครั้งเดียวในบอลโลก ก็คือ จังหวะทำแฮนด์บอลในเขตโทษแบบไม่น่าให้อภัย ในเกมรอบ 16 ทีม ทาให้ เจ้าภาพรัสเซีย ตีเสมอ 1-1 ก่อนจะชนะไปในท้ายที่สุด
เซ็นเตอร์ เฌโรม บัวเต็ง (เยอรมนี)
* อีกหนึ่งกองหลังมากประสบการณ์ แต่กลับเล่นแบบไร้ประสบการณ์ ไม่สามารถหยุดเกมรุกของ เม็กซิโก และ สวีเดน ได้ จนต้องโดนใบแดงออกไป และทาได้แค่นั่งดูเพื่อนเล่นในเกมสุดท้าย ที่แพ้ช็อกโลกให้กับ เกาหลีใต้
แบ็กซ้าย แบงฌาแมง เมนดี้ (ฝรั่งเศส)
* แบ็กซ้ายค่าตัวแพงจาก แมนฯ ซิตี้ ที่เอาแต่เจ็บออดๆ แอดๆ โดยลงสนามไปเพียง 40 นาทีเท่านั้น ตลอดเส้นทางแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของฝรั่งเศส กลายเป็น ลูกัส เอร์นานเดซ ที่ปกติเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟในสโมสร ลงเล่นแทน พร้อมแจ้งเกิดในตาแหน่งนี้ไปเลย
กลาง คาร์ลอส ซานเชซ (โคลอมเบีย)
* ทำเสียจุดโทษ พร้อมโดนใบแดง ทั้งที่เกมเริ่มไปเพียง 3 นาที ในแมตช์แรกที่แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 แถมในรอบ 16 ทีม ยังทำเสียอีก 1 จุดโทษ หลังไปเหนี่ยว แฮร์รี่ เคน แบบไม่มีทรง จนสุดท้ายทีมก็ตกรอบไป
กลาง เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช (เซอร์เบีย)
* ก่อนเริ่มทัวนาเมนต์ ถูกคาดหมายว่าจะแจ้งเกิดได้ แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นอะไรเลย สาหรับผู้เล่นที่มีข่าวว่ายักษ์ใหญ่หลายทีมของยุโรป ให้ความสนใจ
ตัวรุกขวา โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (อียิปต์)
* ต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ช่วยทีมได้ไม่เต็มที่ ส่งให้ทีมแพ้รวดทั้ง 3 นัด จมบ๊วยกลุ่ม เอ ทั้งที่ก่อนเริ่มทัวนาเมนต์ หลายฝ่าย คาดว่า อียิปต์ จะผ่านเข้ารอบไปได้แบบไม่ยากเย็น
ตัวรุกกลาง เมซุต โอซิล (เยอรมนี)
* ขาดความกระตือรือร้น จนถูกวิจารณ์มากมาย อีกทั้งยังปัญหานอกสนาม จนมารบกวนจิตใจ ทำให้โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก
ตัวรุกซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อังกฤษ)
* ได้รับความไว้วางใจอย่างมากจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต แต่ผลงานที่ สเตอร์ลิ่ง ตอบแทนก็คือ 0 ประตู
กองหน้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์)
* ศูนย์หน้าดาวซัลโวแถวหน้าของสโมสรในยุโรป แต่ไม่ได้แสดงพิษสงอะไรออกมาเลย ยิงเข้ากรอบทั้งหมดเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
โค้ช ฮอร์เก้ ซามเปาลี (อาร์เจนติน่า) จัดตัว เปลี่ยนตัว ได้ขัดใจแฟนบอลมากที่สุด
โยอาคิม เลิฟ (เยอรมนี) พาแชมป์เก่าตกรอบแรก ด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม