บุรีรัมย์- ขรก.ครู ผู้รับเหมา ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อดีตภรรยาและชาวบ้านทั้งบุรีรัมย์-สุรินทร์ ที่ตกเป็นเหยื่อถูกเมีย “พ.ต.ท.” อดีตรอง ผกก. สุดแสบหลอกใช้ชื่อเช่าซื้อรถ ว่าจ้างสร้างบ้าน ทำป้าย เหมารถไปเที่ยวร่วม 10 ราย เตรียมบุกร้อง ผบ.ตร.ช่วยเหลือ หวั่นคดีไม่คืบไม่เป็นธรรมและเกรงไปตุ๋นคนอื่นอีก
วันนี้ (5 ธ.ค.) ข้าราชการครู ผู้รับเหมาก่อสร้าง ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อดีตภรรยา และชาวบ้าน ที่ตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.โชติมณี (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาของอดีตนายตำรวจยศ “พ.ต.ท. ซึ่ง เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นรองผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ หลอกเอาชื่อไปเช่าซื้อรถ ยักยอกรถไปใช้ ทั้งเซ็นวัสดุอุปกรณ์จากร้าน ว่าจ้างช่างไปก่อสร้างบ้าน ทำป้ายหินอ่อนแล้วไม่จ่ายเงินร่วม 10 ราย รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ได้นำเอกสารหลักฐานไปปรึกษาและขอความช่วยเหลือทางคดี ที่สำนักงานที่ปรึกษากฎหมายเพื่อประชาชน (หจก.ปีญ่า พริ้นติ้ง แอนด์กราฟฟิคดีไซน์)
รวมทั้งเตรียมรวบรวมหลักฐานเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ เพราะเกรงว่าคดีจะไม่คืบและไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ที่หลอกลวงเป็นภรรยาของอดีตนายตำรวจ ซึ่งรู้ช่องโหว่ของกฎหมาย แต่กลับมาหลอกลวงสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่คนอื่น ซึ่งที่ผ่านมาผู้เสียหายเคยไปแจ้งความร้องทุกข์แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า หนำซ้ำบางรายถูกข่มขู่และถูกแจ้งความกลับอีก ทำให้บางรายหมดหนทางไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงจะรวมตัวกันไปร้องขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร. และหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือ และความเป็นธรรม
ทั้งนี้หนึ่งในผู้เสียหายที่จะเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร.ครั้งนี้ เคยเป็นอดีตภรรยาของ อดีต รอง ผกก.คนดังกล่าวด้วย ซึ่งได้รับความเสียหายเพราะอดีตสามีนำรถยนต์ที่ตนเองเป็นผู้เช่าซื้อไปใช้กับ นางโชติมณี ภรรยาปัจจุบันแล้วไม่ยอมคืนให้ ทั้งเคยฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร 3 คน และศาลตัดสินให้อดีตรอง ผกก.สามีจ่ายค่าเลี้ยงดูแล้ว แต่กลับไม่เคยได้รับเงินตามที่ศาลสั่งเลย จนทุกวันนี้เดือดร้อนมากต้องรับภาระเลี้ยงลูก 3 คนเพียงลำพัง
นายฉัตรชัย ชัยเสนา ข้าราชการครูหนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ตนถูกเมียอดีตรอง ผกก.คนดังกล่าว หลอกใช้ชื่อไปเช่าซื้อรถยนต์ โดยผู้ก่อเหตุหลอกลวงจะรับภรรยาเข้าทำงานในตำแหน่งเสมียน ที่เขาอ้างว่าเปิดบริษัทค้าข้าวอยู่ และรับปากจะปิดยอดให้ภายใน 3 เดือน จึงหลงเชื่อ แต่สุดท้ายกลับไม่ชำระค่างวดรถหรือปิดยอดตามที่รับปาก และไม่ได้เรียกภรรยาเข้าไปทำงานตามที่กล่าวอ้างเลย และพอไปแจ้งความหลายท้องที่กลับให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และบอกให้ไปฟ้องร้องเอาเอง เพราะเป็นคดีแพ่ง
กระทั่งตัดสินใจนำเรื่องออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ และมีผู้รู้ด้านกฎหมายให้คำแนะนำช่องทางในการดำเนินการ ล่าสุดทางตำรวจได้รับแจ้งความเป็นคดีแล้ว แต่ที่ยังกังวลตอนนี้คือกลัวว่ารถที่เมียอดีตรอง ผกก.หลอกเอาชื่อตนเองไปเช่าซื้อ จะถูกนำไปขายต่อหรือส่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากไม่ได้รถกลับมาคืนตนก็ต้องรับภาระชำระค่างวดและดอกเบี้ยที่ค้างทั้งหมดเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดดำเนินการอายัดและติดตามรถคันดังกล่าวกลับมาคืนด้วย และที่ผู้เสียหายเกือบ 10 รายจะเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร.ครั้งนี้ ก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมและได้รถคืน
ด้าน นายชูวิบูลย์ เงางาม ทนายความ บอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นเข่าข่ายฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายคนซึ่งบางคนหมดอายุความแล้ว แต่ยังไม่ได้รถหรือเงินคืน ประกอบกับผู้หลอกลวงเป็นภรรยาอดีตนายตำรวจซึ่งรู้ช่องโหว่ของกฎหมาย จึงจะพาผู้เสียหายเข้าไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก ผบ.ตร. ส่วนกรณีไหนที่เข้าข่ายเป็นคดีแพ่งก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
ขณะที่ นายประพล อาจหาญ หัวหน้าสำนักงาน ที่ปรึกษากฎหมายเพื่อประชาชน (หจก.ปีญ่า พริ้นติ้ง แอนด์ กราฟฟิคดีไซน์) หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายรายว่าถูกภรรยาอดีตนายตำรวจ หลอกในหลายๆ รูปแบบ ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เบื้องต้นได้ให้คำปรึกษาและแนะนำช่องทางในการดำเนินการทางคดี พร้อมจะได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเชื่อว่าการเข้ายื่นร้อง ผบ.ตร.ครั้งนี้จะได้รับความเมตตาช่วยเหลือ