กาญจนบุรี - ชาวมอญหนีตายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ตะเข็บชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ กว่า 700 คน ขณะที่ทางการไทยยังคงสั่งปิดด่านเป็นการชั่วคราว โดยห้ามไม่ให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวในพญาตองซู ฝั่งประเทศพม่า เพื่อความปลอดภัย
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุปะกันระหว่างกองกำลังทหารมอญ (MNLA) กองร้อยที่ 5 ชุดรักษาความสงบของหมู่บ้าน กับทหารพม่า และกองกำลังพิทักษ์ชายแดนพม่า (BGF) ที่บ้านบ่อญี่ปุ่น ซึ่งห่างจากชายแดนไทย-พม่า บริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ประมาณ 2 กม. เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ (27 พ.ย.) ส่งผลให้ประชาชนชาวมอญบ้านบ่อญี่ปุ่น และบ้านไร่อ้อย ซึ่งเป็นเขตปกครองของพรรคมอญใหม่ ต้องอพยพหนีตายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ตะเข็บชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ กว่า 700 คน
ขณะที่ นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งการให้กิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรีเข้ามาดูแลช่วยเหลือในเบื้องต้นตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ส่วนสถานการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการปะทะกันหลังจากหยุดยิงเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 28 พ.ย.62 ที่ผ่านมา พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พ.อ.อนิรุจน์ ดิษฐ์ประชา รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.ท.วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 สังขละบุรี และนายสถาพร บุญสมจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์
ได้เดินทางไปยังวัดเตาถ่าน พื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู ซึ่งกำหนดให้เป็นพื้นที่รองรับผู้หนีภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีผู้อพยพมาขอพักพิง จำนวน 447 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านบ่อญี่ปุ่น ขณะที่วัดซองกาเรีย พื้นที่หมู่ 8 ต.หนองลู ซึ่งเป็นอีกแห่งที่ใช้เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราว มีผู้อพยพ จำนวน 117 คน ส่วนผู้อพยพที่เหลือจะมาอาศัยรวมกันอยู่ที่บริเวณพื้นที่ 6,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู ซึ่งเป็นสวนยางพารา
โดยคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพมาจากบ้านไร่อ้อย ที่ไม่ต้องการเข้าไปพักพิงตามสถานที่ที่ทางการไทยจัดไว้ให้ เนื่องจากต้องการเดินข้ามไปมา เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินของตัวเอง ท่ามกลางการควบคุมดูแลด้านความปลอดภัยของกำลังเจ้าหน้าที่ไทย
ขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเยี่ยมและพูดคุยไต่ถามทุกข์สุขของผู้อพยพเหล่านั้น ก่อนจะออกตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดตรวจและลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนจากด่านเจดีย์สามองค์ จุดตรวจบ้านน้ำเกิ๊ก พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และดูแลป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
และวันนี้ (28 พ.ย.) พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี จะเดินทางไปติดตามสถานการณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้อพยพตามมาตรฐานสากล
สำหรับสถานการณ์การสู้รบหลังทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง เนื่องจากทหารพม่าได้ร่วมกับกองกำลังพิทักษ์ชายแดนพม่า (BGF) สามารถเข้ายึดพื้นที่กองร้อยบ้านบ่อญี่ปุ่นได้แล้ว ขณะเดียวกัน ทหารมอญได้หลบหนีออกจากฐานกองร้อยที่ 2 มาหลบซ่อนตัวอยู่ทางด้านบ้านไร่อ้อย ฝั่งมอญหมดแล้ว พบว่า ตลอดบ่ายวานนี้จนถึงขณะนี้ไม่มีการปะทะ โดยมีกระแสข่าวว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจา
ส่วนสาเหตุของการปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย เกิดจากก่อนหน้านี้ บ้าน 2 หลังที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนบ้านน้ำเกิ๊ก ฝั่งไทย ซึ่งมีพื้นที่ติดกับบ้านบ่อญี่ปุ่น ฝั่งมอญ บริเวณดังกล่าวทางทหารพม่าได้แจ้งว่าบ้าน 2 หลังเป็นพื้นที่ทับซ้อน และที่ผ่านมา ทหารพม่าได้เข้าไปตรวจสอบเป็นระยะๆ แต่เส้นทางที่จะไปบ้านทั้ง 2 หลัง จะต้องเดินทางจากเจดีย์สามองค์ ผ่านพื้นที่บ้านบ่อญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเขตปกครองของชนกลุ่มน้อยมอญ
โดยได้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่า ในข้อตกลงระบุว่า “หากทหารพม่าจะเข้าไปในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย จะต้องแจ้งให้ทราบและต้องทำการปลดอาวุธเสียก่อน” ซึ่งที่ผ่านมาทุกครั้งก็จะมีการปฏิบัติเช่นนั้น แต่เมื่อวานนี้ทหารพม่ามาในสภาพที่มีอาวุธครบมือ โดยมีกำลังพลไม่ต่ำกว่า 15 นาย ซึ่งเมื่อมาถึงด่านทหารมอญ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเจดีย์สามองค์ประมาณ 3 กม. ทางทหารมอญจึงเรียกรถให้หยุดพร้อมปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ผ่าน แต่ทางฝ่ายทหารพม่าก็ยังคงดื้อดึง จนนำมาสู่การปะทะกัน
ในส่วนของบรรยากาศบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ทางการไทยยังคงสั่งปิดด่านเป็นการชั่วคราว โดยห้ามไม่ให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวในพญาตองซู ฝั่งประเทศพม่า เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ร้านค้าต่างๆ บริเวณโดยรอบด่านเจดีย์สามองค์ยังคงปิดเงียบ เช่นเดียวกันกับแรงงานชาวพม่าที่ข้ามแดนมาทำงานในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ วันนี้ไม่ได้เดินทางมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน
