ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คุมตัว “ไอ้นัน กิ่งเพชร” สอบปากคำและแถลงข่าวที่ตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น หลังตำรวจมหาสารคามจับได้ยัดห้องขังไว้ 1 คืน เผยพฤติกรรมสุดชั่ววางแผนเป็นขบวนการหลอกสั่งซื้อสินค้าจากเหยื่อวัยรุ่นแล้วขู่รีดเงินจากผู้ปกครองนับแสนบาท
วันนี้ (25 พ.ย. 62) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคามได้ควบคุมนายภูมิภากร ถิ่นสุวรรณ หรือนัน กิ่งเพชร อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจังหวัดมหาสารคามที่ จ.186/2562 ลงวันที่ 12 พ.ย. 62 ในข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง และได้ถูกคุมตัวมาสอบปากคำต่อที่ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมกับแถลงข่าว
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้อ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทลิขสิทธิ์เพื่อจับกุมผู้ที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา กรณีที่ น.ส.ชญานิศ นามไพร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.9 ต.แคนใหญ่ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ได้หารายได้เสริมด้วยการประกาศขายสินค้าออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก บัญชีชื่อนิดหน่อย เด็กดี โดยจำหน่ายสินค้าประเภทชั้นวางของทำจากไม้ รับมาจากผู้ผลิตมาขายในราคาชิ้นละ 290 บาท
ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วนิสา ถินสุวรรณ ได้ส่งข้อความมาทางช่องพูดคุยส่วนตัว ติดต่อขอซื้อชั้นวางลายโดเรมอน โดยผู้เสียหายได้ตอบไปว่าไม่มีลายดังกล่าว ส่วนรูปลายโดเรมอนที่นำมาลงเป็นรูปของบุคคลอื่น แต่ทางด้านลูกค้าได้พยายามขอซื้อจำนวน 2 ชิ้น โดยนัดส่งสินค้าที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซในวันที่ 19 ส.ค. 62 จากนั้นผู้เสียหายได้นำกระดาษห่อของขวัญที่มีลายโดเรมอนมาติดประดับที่ชั้นวางของ ก่อนจะนัดเจอกับนายลูกค้าที่นัดหมายไว้ จนกระทั่งเวลา 11.00 น. พบนายภูมิภากร ถิ่นสุวรรณ หรือนายนัน กิ่งเพชร ผู้ต้องหา ได้มาพร้อมชายฉกรรจ์ 5-6 คน เมื่อมาถึงได้ขอดูสินค้า จากนั้นผู้ต้องหาได้อ้างว่ามากับตำรวจเพื่อมาจับลิขสิทธิ์ลายโดเรมอน
หลังจากนั้นได้พาตัวผู้เสียหายมาที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ก่อนที่จะไปที่ชั้นที่ 2 ชั้นลอย จากนั้นมีนายพิพล ที่อ้างตัวเป็นตัวแทนรับมอบอำนาจจากบริษัทลิขสิทธิ์ ได้พูดจาข่มขู่ผู้เสียหายเพื่อเรียกเงินจำนวน 1 แสนบาทเป็นการเคลียร์คดีไม่ให้ติดคุก แต่เนื่องจากผู้เสียหายเป็นวัยรุ่นจึงได้โทร.บอกผู้ปกครอง และมีการต่อรองจำนวนเงิน ท้ายสุดเหลือ 5 หมื่นบาท
โดยนัดหมายรับเงินที่ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาได้เดินทางไปรับเงิน 5 หมื่นบาทด้วยตัวเองจากผู้ปกครองของผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งมาพบข่าวผู้ต้องหาได้ล่อซื้อจับลิขสิทธิ์ลายกระทงที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคามไว้เป็นหลักฐาน ส่วนนายภูมิภากร และนายพิพล โตตันติกุล อยู่ในระหว่างการติดตามตัว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากพฤติการณ์ของผู้ต้องหา พบว่ามีความผิดที่ชัดเจนและเจ้าพนักงานมีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ตามกฎหมาย ในคดีกรรโชกทรัพย์ และจะแจ้งข้อหาเพิ่ม ในข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เพราะผู้ต้องหาไม่ได้เป็นตำรวจ และไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ ในขณะที่นายพิพล โตตันติกุล ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกออกหมายจับ แต่ยังหลบหนีอยู่ ทางตำรวจได้ประสานกับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อขอคำยืนยันเป็นเอกสารว่าเป็นพนักงานผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเพื่อกระทำอย่างที่ทำกับผู้เสียหายนั้นหรือไม่ หรือเป็นการกระทำที่เกินหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ ซึ่งก็เข้าข่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจด้วย