สองพี่น้องเหยื่อล่อซื้อรีดค่าลิขสิทธิ์จากร้อยเอ็ดโผล่แจ้งความโรงพักมหาสารคาม

มหาสารคาม-สองพี่น้อง ผู้เสียหายจากแก๊งล่อซื้อขู่รีดทรัพย์อ้างละเมิดลิขสิทธิ์โดราเอม่อนจาก จ.ร้อยเอ็ดโผล่ แจ้งความร้องทุกข์ที่มหาสารคาม เผยถูกจับถูกปรับถึง 5 หมื่นบาท ต้องไปหยิบยืมเงินญาติพี่น้องมาจ่าย ลั่นสู่ให้ถึงที่สุด

วันนี้ (12 พ.ย.62) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม นางโสภาพรรณ ปัญยาง พร้อมด้วยลูกชาย และลูกสาว คือ นายชยานันท์ ปัญยาง และนางสาวชญานิส นามไพร เดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.วุฒิ ศรีวิลัย รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กรณีถูกจับลิขสิทธิ์ ในการทำตู้ใส่ของลวดลายโดเรม่อน โดยมีการสั่งซื้อตู้จำนวน 2 ใบ ตกลงราคากันที่ 500 บาท

จากนั้นนัดรับสินค้ากันที่ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จังหวัดมหาสารคาม และเมื่อมีการส่งมอบสินค้า จ่ายเงินเรียบร้อย ปรากฏว่ามีชาย 6 คน ที่อ้างว่าเป็นตำรวจมายึดของกลางและยึดเงิน และได้มีการแสดงเอกสารว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์ให้ดำเนินคดีกับนายชยานันท์ และนางสาวชญานิศ ข้อหาทำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยได้มีการตกลงค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาทเพื่อจบคดี มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 เวลา 17.10 น.

โดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ เป็นบุคคลที่เป็นข่าวดังในช่วงที่ผ่านมา คือ นายพิพล โตตันติกุล และ นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ ทั้งนี้นายชยานันท์ และนางสาวชญา ประสงค์ให้ดำเนินคดีความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมาย


นางโสภาพรรณ ปัญยาง แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายพิพล โตตันติกุล และนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ เนื่องจากเห็นว่าตนเองและลูกไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งมีการจับลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ก็คือกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ คาดว่าจะกระทำเป็นขบวนการ อีกทั้งทรัพย์สินเงินทองที่นำไปจ่ายนั้น ตนต้องไปหยิบยืมญาติพี่น้องมา ทำให้ตอนนี้เดือดร้อนมาก

“ใจหนึ่งก็อยากได้เงินคืน แต่ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็จะขอสู้จนถึงที่สุด”นางโสภาพรรณกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.วุฒิ ศรีวิลัย รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ตนลงมาดูแลด้วยตนเอง ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีที่มีอัตราโทษค่อนข้างสูง และต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทางเจ้าหน้าที่ต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ ต่อผู้ที่ทำให้ทางเจ้าทุกข์เกิดความเสียหาย ต้องสูญเสียทรัพย์สิน