กาฬสินธุ์-ลูกสาวแม่ค้าร้านขายของชำ ที่อ.อหนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์โพสต์เตือนภัย หลังถูกสองชายหญิง อ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทมาอัพเดทตู้เติมเงินโทรศัพท์ ก่อนอาศัยจังหวะฉวยโอกาสแอบเติมเงินเข้าเบอร์ฟรีกว่า 2,000 บาท แล้วเผ่นหนีลอยนวล
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “แชร์คะแชร์ ช่วยแชร์หน่อยค่ะ มิจฉาชีพ แม่เราเจอกับตัว โดยเนื้อหาระบุว่า มีผู้ชายกับผู้หญิงมา 2 คน บอกทางบริษัทให้มาอัพเดทตู้เติมเงินให้ มันถามแม่ว่า ตู้ใช้ดีเบาะแม่? แม่ตอบใช้ดียุแต่ช้านิดนึ่ง มันก็บอกเดี๋ยวอัพเดทให้ มันบอกให้แม่มาเปิดตู้เอาเงินออก แม่ก็เปิดเอาเงินสดออกไปเก็บไว้ พอดีมีลูกค้ามาซื้อของ แม่ไปขายของ(แม่อยู่คนเดียว) แล้วมันก็ทำของมันอยู่ 2 คน เหมือนจะเติมเงินเพื่อหลอก เพราะมันไปแลกเงินกับแม่ พอแม่กลับมาบอกว่าเสร็จแล้ว แม่ล็อคตู้ได้เลย #หนูชื่อบิวนะแม่ มีอะไรโทรเข้าบริษัทได้เลย มันบอกก่อนออกไป”
พร้อมภาพถ่าย 2 หนุ่มสาวกำลังตั้งค่าเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถือไว้ได้ หลังจากที่ทั้งสองคนขับรถออกไปแล้วแม่เลยเปิดดูรายละเอียดในตู้มีการโอนเงินหรือเติมเงินออก 1,000 บาท 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,000 บาท แต่กลับไม่มีเงิน จึงมั่นใจว่าโดนหลอก ระวังด้วยนะค่ะพวกมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบ พูดดีทำให้เราตายใจ แล้วมันก็หลอกเรา
สอบถามนางปราณี ญาณสะอาด อายุ 53 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในหมู่บ้านนาขาม หมู่ที่ 1 ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ถูกสองหนุ่มสาวอ้างว่ามาจากบริษัทตู้เติมเงินโทรศัพท์ ส่งมาดูแลตู้เติมเงินให้ อ้างว่าจะทำการตั้งค่าระบบให้ทันสมัย โดยใช้เวลา 2 นาทีพนักงานได้แอบเติมเงินเข้าโทรศัพท์ของตนเองจำนวน 2,000 บาท โดยนำเงินที่เติมเข้าตู้เติมเงินโทรศัพท์ไปด้วย
นางปราณี ญาณสะอาด อายุ 53 ปี เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนขายของอยู่ภายในร้านขายของชำตามปกติ มีชายอายุประมาณ 25 ปี และหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างหน้าตาดี ขับรถกระบะ สีบรอนซ์มาจอดหน้าร้าน ซึ่งทั้งสองอ้างมาจากบริษัทที่ตู้เติมเงินโทรศัพท์ที่ติดตั้งหน้าร้าน บริษัทได้ส่งพนักงานมาดูแลตู้เติมเงินโทรศัพท์ที่เกิดความล่าช้า ทำการอัพเดทเครื่องให้มีความรวดเร็วและทันสมัยขึ้น
ตนจึงบอกปัญหากับพนักงานว่า ตู้ไม่รับเงินเหรียญราคา 10 บาทและธนบัตรราคา 20 บาท พนักงานได้แจ้งตนให้นำกุญแจมาเปิดตู้เติมเงินโทรศัพท์เพื่อนำเงินสดในตู้ออกให้หมด เพราะบริษัทจะไม่ให้พนักงานจับเงินสด จากนั้นตนได้นำกล่องเงินสดที่อยู่ภายในตู้ไปไว้ในบ้านพร้อมใช้ผ้าปิด ซึ่งระหว่างที่พนักงานทำการตั้งค่าเครื่องตู้เติมเงินโทรศัพท์ มีลูกค้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน เวลาผ่านไป 2 นาที พนักงานได้แจ้งว่า ตั้งค่าตู้เรียบร้อยแล้วให้นำกุญแจมาล็อกตู้ จากนั้นพนักงานได้ขอเติมเงินจากตู้เติมเงินโทรศัพท์ จำนวน 20 บาทอีกด้วย ก่อนจะขับรถออกไป
นางปราณี กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ตรวจเช็ครายละเอียดของตู้เติมเงินโทรศัพท์ พบว่าให้บริการไปแล้ว จำนวน 6,00 บาท ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณดังกล่าว ตนได้มาเปิดตู้พบเงินสดภายในกล่องบรรจุเงินสดเพียง 4,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตนได้ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดผ่านระบบ พบขณะที่พนักงานมาตั้งค่าเครื่องได้แอบเติมเงินเข้าโทรศัพท์หมายเลข 0652793xxx จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,000 บาท
จากนั้นได้โทรหาบริษัทเจ้าของตู้ให้บริษัทช่วยดึงเงินจากระบบให้ แต่บริษัทไม่สามารถทำให้ได้เนื่องจากระบบได้ทำการเติมเงินไปยังหมายเลขดังกล่าวได้สำเร็จแล้ว และขอเวลาตรวจสอบว่าเป็นพนักงานของบริษัทจริงหรือไม่ และได้โทรหาหมายเลขที่เติมเงินเข้าแต่ไม่สามารถติดต่อได้
ตนพร้อมลูกสาวจึงโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย และเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศักดิ์ชาติ เหล่าสักสาม พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 2 คน ไม่ให้ไปก่อเหตุอ้างเป็นพนักงานดูแลตู้เติมเงินโทรศัพท์แล้วแอบเติมเงินเข้าเบอร์โทรศัพท์ตัวเอง ในลักษณะนี้กับร้านค้าอื่นอีก
