xs
xsm
sm
md
lg

โกรธไม่ลง! สองผัวเมียเห็นแล้วกลับดีใจ ยายเอารูปงานแต่งมาทำฝาบ้านกันฝนบังแดด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - เห็นกับตาแล้วโกรธไม่ลงจริง..ผัวหนุ่มเมียสาวถูกยายวัย 85 นำรูปแต่งงานไปทำฝาผนังเพิงพักอยู่ริมถนน บอกตอนแรกโคตรนอยด์ แต่พอตามไปดูแล้วกลับดีใจภาพสำคัญในชีวิตมีประโยชน์ต่อคนอื่น





ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ SaRa NaLux นำภาพและเรื่องราวสุดประทับใจมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตนเอง ระบุใจความว่า “รูปแต่งงานฝากไว้บ้านเพื่อน ตอนมีคนทักมาก็ยังงงๆ ฝากเขาไว้แล้วรูปเรามาอยู่ตรงนี้ได้ไง ใครทิ้งรูปฉัน อารมณ์คือแบบโคตรนอยด์ ก็เลยมาตามหารูปตัวเอง สรุปยายเก็บมาทำที่กั้นบ้านพักอาศัย จากอารมณ์ที่กำลังโมโหมากๆ ว่ารูปในวันสำคัญมาอยู่ตรงนี้ได้ไง

..พอคุยกับยายไปมา ยายบอกรูปหนูเหรอ ให้ยายรื้อไหม เอาไปเก็บไว้ลูก ยายไม่รู้จริงๆ ยายเก็บมาทำเพิงอยู่ พอยายพูดแบบนี้เราก็อดสงสารยายไม่ได้ อยู่คนเดียวลูกหลานไม่มี ขายน้ำมันขวดละ 30 บาทตรงริมชล แล้วก็มีเสื้อมือถักขาย ใครว่างมาอุดหนุนยายเพ็ญด้วยนะจ๊ะ ยายยากจนอยู่คนเดียวไม่มีลูกหลาน ยายหากินคนเดียว ขอเทศบาลปลูกเพิงเพื่อขายของ พิกัดตรงข้ามแพสี่แคว มาอุดหนุนยายเยอะๆ น้า” #รูปหนูไม่เอากลับจ้าไว้ให้ยายหลบแดดหลบฝนตรงนี้หนูก็โอเคแล้ว รูปภาพวันแห่งความทรงจำที่หายไป กลับกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนอื่น เรื่องราวจบลงด้วยดี งานนี้สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ”


ทั้งนี้ หลังจากมีการโพสต์ภาพและเรื่องราวดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้ามากดไลก์ กดแชร์ พร้อมกับคอมเมนต์กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจคู่รักคู่นี้กันอย่างล้นหลาม

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อมูลเรื่องราวทั้งหมดจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ SaRa NaLux ทราบชื่อคือ นางดวงฤดี หรือซาร่า อายุ 35 ปี กำลังเดินทางไปพบกับยายชราที่นำรูปงานแต่งงานของเธอไปทำฝาบ้านที่บริเวณริมถนนสายริมชล ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ


เมื่อไปถึงพบว่าคุณยายรายนี้คือ นางเพ็ญ ทองคำ อายุ 85 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในเพิงขนาดเล็กริมถนนเพียงลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิตไปนานนับ 10 ปี และบุตรอีก 3 คนต่างแยกย้ายกันไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพฯ กันหมด เลยทำให้นางเพ็ญต้องอยู่คนเดียว โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการขายน้ำมันขวดอยู่ริมถนน

คุณยายเพ็ญเล่าว่า ตนมาสร้างบ้านเพิงอยู่อาศัยตรงจุดนี้มานานกว่า 3 ปีแล้วโดยไม่เสียค่าเช่าที่ใดๆ เพราะเขาให้อยู่ฟรี ส่วนที่ต้องมาอยู่ตรงนี้เนื่องจากบ้านที่เคยอยู่กับสามีถูกญาติพี่น้องของเขามาทวงคืนไปหมด เลยต้องย้ายออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง และค้าขายน้ำมันขวดอยู่ริมทาง โดยจะขายอยู่ที่ขวดละ 30-20 บาท พร้อมกับรับจ้างถักทอผ้าเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตนก็มีความสุขดี และก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย เนื่องจากในแต่ละวันจะมีผู้ใจดีทั้งรู้จักและไม่รู้จักนำอาหารและน้ำมาให้ตนอยู่เสมอ


เมื่อถามถึงที่มาของรูปแต่งงานของนางดวงฤดีและสามีที่นำมาทำเป็นฝาบ้าน ยายเพ็ญบอกว่ามีคนรู้จักคนหนึ่งขับรถพ่วงเอามาสอบถามว่าเขาพบรูปงานแต่งงานแบบอัดติดไม้ขนาดใหญ่ 2 ภาพถูกนำไปทิ้งไว้เลยเก็บมาแต่ที่บ้านไม่มีที่เก็บ จึงได้ขับรถแวะมาหาตนเพื่อสอบถามว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรหรือไม่ ตนก็ตอบทันทีว่าเอา เพราะตนจะนำไปทำเป็นฝาบ้านเนื่องจากอันเก่ามันผุ

หลังจากที่ตนนำรูปภาพทั้งสองรูปนี้มาประกอบเข้ากับบ้านเพิงได้ไม่นาน ก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวที่เป็นสามีภรรยากัน และเป็นคนที่เหมือนกับในรูปแต่งงานเข้ามาสอบถามถึงที่มาของภาพ ก็ตกใจมาก กลัวว่าจะมีความผิด จึงได้รีบบอกไปว่าจะให้ตนรื้อคืนให้หรือเปล่า แต่เมื่อคุยไปคุยมาสองสามีภรรยาคู่นั้นกลับบอกตนว่าไม่ต้องรื้อ ขอให้เก็บไว้เป็นฝาบ้านอยู่อย่างนี้ พร้อมกับเอาเงิน 2 พันบาทมาให้ตนด้วยแล้วกลับบ้านไป


ด้านนางดวงฤดี หรือซาร่า เจ้าของรูปงานแต่ง เล่าว่า ตอนแรกที่ตนมาเห็นรูปภาพก็รู้สึกน้อยใจและรู้สึกโมโหมาก เนื่องจากเป็นรูปสำคัญและมีคุณค่าทางจิตใจของตน แต่เมื่อได้สอบถามและพูดคุยกับยายเพ็ญแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจจนเปลี่ยนความคิด กลับกลายเป็นรู้สึกดีใจเสียอีกที่ภาพสำคัญของเราได้ทำประโยชน์ให้แก่ยายเพ็ญนำมาทำบ้านเป็นที่กันแดดกันฝน แต่จากการตรวจสอบสภาพบ้านของยายแล้วยังดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะว่าจ้างช่างให้มาทำบ้านเพิงให้ยายเพ็ญใหม่ จะได้มีบ้านที่แข็งแรงมั่นคงอยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในขณะที่นางดวงฤดี และนางเพ็ญได้นั่งพูดคุยกันอยู่ที่ใต้ร่มไม้ข้างบ้านเพิงอยู่นั้น ก็มีแม่ค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดินผ่านมาพอดี นางดวงฤดีจึงได้เรียกขอซื้อ และให้ยายเพ็ญช่วยเลือกให้ ซึ่งยายเพ็ญได้เลือกเลขท้าย 43 นางดวงฤดีจึงได้เลือกซื้อหวยที่มีเลขท้ายดังกล่าวมา 5 ใบ แล้วมอบให้นางเพ็ญไว้ 2 ใบ แต่ยายเพ็ญไม่รับโดยขอให้นางดวงฤดีเก็บเอาไว้ เพราะตอนนี้รู้สึกตื้นตันใจอยู่แล้วที่นางดวงฤดีให้การช่วยเหลือ จึงให้นางดวงฤดีเก็บไว้ดีกว่า


ขณะเดียวกัน ทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนูษย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครสวรรค์ก็ได้ร่วมกันเดินทางมาเยี่ยมนางเพ็ญที่บ้านด้วยเพื่อสอบถามการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ ซึ่งจากการพูดคุยกันในเบื้องต้น ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวจะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้นางเพ็ญเดือนละ 2,000 บาททุกเดือน ก่อนจะมีการมอบข้าวสารอาหารแห้งและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่นางเพ็ญนำไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น