ศรีสะเกษ - พ่อแค้นนำลูกสาวนักฟุตบอลหญิงเยาวชนทีมชาติไทยโดนโค้ชตีก้นแตกยับเหตุหนีไปกินข้าวโร่แจ้งความดำเนินคดีครูโหด ขณะ ผอ.ร.ร.รับปากดูแล นร.เต็มที่พร้อมตั้ง กก.สอบเอาผิดครูโหด ด้านพ่อแม่พอใจ แต่ยังไม่ถอนแจ้งความจนกว่าครูจอมโหดจะแสดงความรับผิดชอบและขอโทษ
วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชา (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า ลูกสาวของตนคือ น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูก นาย ภ. ครูโรงเรียนชื่อดังและเป็นโค้ชฟุตบอลหญิงของโรงเรียน ใช้ไม้เรียวที่ค่อนข้างใหญ่มากตีที่สะโพกของน้องเออย่างแรงจำนวนประมาณ 10 ครั้ง จนทำให้สะโพกของน้องเอบวมช้ำเป็นแผลแตกหลายแผล ซึ่งนายชาได้นำตัวลูกสาวเข้าไปแจ้งความต่อ ร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินคดีครูจอมโหดตามกฎหมายแล้ว
นายชา พ่อเหยื่อครูโหด เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. น้องเอได้กลับมาเยี่ยมบ้านและได้มาแจ้งให้คุณตาทราบว่าโดนครูตีและให้คุณตาช่วยดูอาการของแผลที่สะโพกให้ เมื่อคุณตาทราบเรื่องว่าหลานสาวโดนตีจนสะโพกแตกยับจึงได้แจ้งให้ตนทราบ ซึ่งน้องเอได้เล่าให้ตนฟังว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. ขณะที่น้องเอกำลังซ้อมฟุตบอลอยู่นั้น ครู ภ ได้เรียกให้น้องเอมาพบและสอบถามว่าออกไปข้างนอกโรงเรียนมาใช่ไหม น้องเอตอบว่าใช่ค่ะ ครู ภ จึงบอกว่าเมื่อทำผิดกฎต้องถูกลงโทษ โดยการใช้ไม้ไผ่ที่ทำเป็นไม้เรียวขนาดใหญ่ตีที่สะโพกของน้องเอ 10 ครั้งจนเป็นแผลแตก
แต่น้องเอไม่ยอมเล่าเรื่องให้ตนและภรรยาซึ่งเป็นแม่ของน้องเอทราบ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะโดนกลั่นแกล้งจากครู ภ ซึ่งเป็นโค้ชฟุตบอลหญิงของโรงเรียน แต่ตนเห็นว่าเป็นการลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ จึงได้นำน้องเอไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อเอาผิดครู ภ ที่ทำโทษนักเรียนอย่างรุนแรงแบบนี้ โดยตนนำตัวน้องเอไปพบแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษในวันที่ 19 พ.ย. เวลา 09.00 น. เพื่อทำการตรวจบาดแผลการโดนทำร้ายประกอบการดำเนินคดีต่อไป
ตนจะไม่ยอมความอย่างเด็ดขาด จะดำเนินคดีครูที่ทำร้ายลูกสาวของตนจนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีในวงการครูอีกต่อไป
ร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้ส่งตัวน้องเอไปให้แพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษทำการชันสูตรบาดแผลแล้ว ส่วนนาย ภ ที่ถูกกล่าวหาคดีนี้ จากการตรวจสอบแล้วทราบว่าเป็นโค้ชทีมกีฬาฟุตบอลเยาวชนหญิงของโรงเรียนไปทำการแข่งขันคัดตัวแทนฟุตบอลเยาวชนหญิงที่ จ.นครพนม จะกลับมาในวันที่ 29 พ.ย.นี้ ซึ่งจะได้เรียกมาทำการสอบสวนว่าเพราะเหตุใดจึงได้ลงโทษน้องเออย่างรุนแรงแบบนี้ เบื้องต้นจะได้ตั้งข้อหานาย ภ ว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บ
น้องเอ เหยื่อครูโหด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนเคยติดทีมฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย อายุ 14 ปี 15 ปี และ 16 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 จนถึง ม.5 จึงได้หลุดจากทีมชาติ ต่อมาอาจารย์ ภ ได้มาคุมทีมฟุตบอลหญิงของโรงเรียน และก่อนถึงวันเกิดเหตุตนกับเพื่อนหิวข้าวจึงได้แอบออกไปกินข้าวนอกโรงเรียนต่อมาวันที่ 15 พ.ย. 62 เวลา 16.00 น. ตนกำลังซ้อมฟุตบอลอยู่กับเพื่อนๆ อาจารย์ ภ ให้ตนออกไปยืนรอข้างสนามฟุตบอล จากนั้นให้รุ่นน้องไปเอาไม้เรียวขนาดใหญ่มา ซึ่งตนยอมรับกับอาจารย์ ภ ว่าแอบหนีออกไปนอกโรงเรียนจริงเพื่อไปกินข้าว อาจารย์ ภ บอกว่าผิดต้องทำโทษและตีที่สะโพกตนอย่างแรง 10 ครั้งต่อหน้าเพื่อนๆ นักเรียนหลายคนที่กำลังซ้อมกีฬากันอยู่ ทำให้ตนเจ็บปวดมากแต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ได้แต่ให้เพื่อนทายารักษาแผลที่โดนตีให้ จนกระทั่งกลับไปเยี่ยมทำให้พ่อแม่ทราบเรื่อง ตนยอมรับว่าทำผิดกฎของโรงเรียนจริงแต่ไม่คิดว่าจะทำโทษอย่างรุนแรงมากขนาดนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งเขต อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พ่อแม่ของน้องเอ พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้พากันเดินทางมาที่โรงเรียนแห่งนี้เพื่อที่จะมารับน้องเอไปให้แพทย์ตรวจร่างกายเกี่ยวกับบาดแผลที่โดนตีที่สะโพก แต่ปรากฏว่าผู้อำนวยการโรงเรียนได้เชิญพ่อแม่และน้องเอขึ้นไปพบที่ห้องทำงาน เพื่อขอรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ทำการเจรจาเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยมีบรรดาญาติพี่น้องนั่งรออยู่ที่บริเวณหน้าอาคารเรียนภายในโรงเรียนโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังการเจรจาด้วยแต่อย่างใด ใช้เวลาในการเจรจากันนานประมาณ 1 ชั่วโมง พ่อแม่น้องเอ และผู้อำนวยการโรงเรียนได้ออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน
ต่อมาผู้อำนวยการโรงเรียนพร้อมด้วยพ่อและแม่ของน้องเอ และน้องเอได้ออกมาพบกับสื่อมวลชนทุกแขนงที่มารอทำข่าวนี้ โดยทุกคนมีใบหน้าที่สดชื่น ไม่ได้มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด โดยผู้อำนวยการโรงเรียน ได้กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเจรจากันกับพ่อแม่และน้องเอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตนได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดและพร้อมที่จะดำเนินการตามระเบียบวินัยของข้าราชการครูอย่างเต็มที่
โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางวินัยครูรายนี้แล้ว ซึ่งตนได้โทรศัพท์แจ้งให้ครูที่ลงโทษเด็กที่ขณะนี้กำลังคุมทีมฟุตบอลเยาวชนหญิงของโรงเรียนไปทำการแข่งขันอยู่ที่ จ.นครพนม ให้กลับมารายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยด่วนที่สุด ส่วนการแข่งขันที่ยังเหลืออยู่นั้นตนมอบให้ผู้ช่วยโค้ชคุมทีมแทน โดยให้ครู ภ รายงานข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนการรักษาอาการบาดเจ็บของน้องเอนั้น ทางโรงเรียนจะเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่เพราะว่าเป็นหน้าที่ของโรงเรียนที่จะต้องดูแลนักเรียนทุกคนเหมือนลูกหลานของตนเองอยู่แล้ว
ทางด้านพ่อและแม่ของน้องเอกล่าวว่า จากการที่ได้เจรจากับผู้อำนวยการโรงเรียนแล้วมีความพอใจ เนื่องจากว่าทางโรงเรียนพร้อมที่จะรับผิดชอบดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่จะยังไม่ถอนแจ้งความจนกว่าครูที่ลงโทษลูกของตนอย่างรุนแรงจะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ รวมทั้งมาขอโทษตนเสียก่อน ลูกใครใครก็รัก การที่มาใช้วิธีการทำโทษลูกสาวของตนอย่างรุนแรงแบบนี้ตนรับไม่ได้
ทางด้านน้องเอ นักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า มีความรักในสถาบันแห่งนี้ รักเคารพครูทุกคน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตนผิดจริงที่ออกไปหากินข้าวนอกโรงเรียน แล้วมาถูกครูลงโทษอย่างรุนแรง ตนไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าครูอยากให้ตนเป็นคนดีมีระเบียบวินัยจึงได้ลงโทษตนแบบนี้