ศรีสะเกษ - ครูโค้ชจอมโหดตีนักเรียนนักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยก้นแตกโร่กราบขอขมาพ่อแม่เด็ก พร้อมมอบเงิน 5,000 บาท ขณะ ผอ.โรงเรียนเผยสอบสวนครูโหดเสร็จวันนี้ สั่งลงโทษว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
วันนี้ (20 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่น้องเอ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งและเป็นนักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย ได้ถูกครูซึ่งเป็นโค้ชฟุตบอลใช้ไม้ไผ่ตีอย่างรุนแรง 10 ครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกที่สะโพกหลายแผล สาเหตุเนื่องจากน้องเอหนีออกจากโรงเรียนไปกินข้าวกับเพื่อนนอกโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พ่อแม่ของน้องเอได้นำตัวน้องเอไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษเพื่อดำเนินคดีครูโหดรายนี้ ล่าสุดพ่อแม่ของน้องเอ พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้พากันเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อที่จะมารับน้องเอไปให้แพทย์ตรวจร่างกายเกี่ยวกับบาดแผลที่โดนตีที่สะโพก แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เชิญพ่อแม่และน้องเอขึ้นไปพบที่ห้องทำงานเพื่อขอรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ทำการเจรจาเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยมีบรรดาญาติพี่น้องนั่งรออยู่ที่บริเวณหน้าอาคารเรียนภายในโรงเรียนโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังการเจรจาด้วยแต่อย่างใด ล่าสุดผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดครูจอมโหด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ นางสุ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของน้องเอ นักฟุตบอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. ของคืนวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ครู ภ ครูที่ตีลูกสาวของตนอย่างรุนแรง พร้อมด้วยเพื่อนครูจำนวน 4 คน ได้เดินทางมาพบกับตนและครอบครัวที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และได้นำเอากระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่งมาด้วย โดยครู ภ ได้เก็บดอกพุทธรักษาข้างบ้านของตน แล้วนำเอาเงินสด จำนวน 5,000 บาท มาใส่ในจาน เพื่อขอขมาที่ได้ลงโทษน้องเอ ลูกสาวของตนอย่างรุนแรง แต่ว่าตนไม่ยอมรับการขอขมา โดยให้ครู ภ ไปขอโทษกับปู่และพ่อของน้องเอแทน
ครู ภ ได้กล่าวยอมรับว่าได้ลงโทษน้องเออย่างรุนแรงจริง แต่ว่าไม่ได้ใช้อารมณ์ เนื่องจากว่าน้องเอแอบหนีออกจากหอพักไปเที่ยว ซึ่งผิดกฎของทางโรงเรียน ตนได้บอกกับครู ภ ว่าลูกสาวของตนทำผิดกฎของโรงเรียน แต่ครู ภ ก็ไม่ควรที่จะทำโทษน้องเออย่างรุนแรงแบบนี้ และตนไม่ขอรับเงิน 5,000 บาทเนื่องจากว่าความสูญเสียทางจิตใจของตนและครอบครัวที่น้องเอโดนตีเกินที่จะเยียวยาได้ เป็นบาดแผลลึกทางจิตใจของตนและครอบครัว แต่ว่าครูที่มาด้วยกันได้ขอให้ตนและครอบครัวยอมรับเงินเอาไว้โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องเดินทางไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ตนและครอบครัวต้องรับเงินเอาไว้
และได้พูดถึงความปลอดภัยของน้องเอว่าจะโดนลงโทษแบบนี้อีกหรือไม่อย่างไร ซึ่งครู ภ กับคณะที่มาทุกคนยืนยันว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ส่วนเรื่องการถอนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนนั้น จะต้องรอหารือกับครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ได้ให้ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน และฝ่ายปกครองนำตัวครู ภ ไปขอโทษพ่อแม่ของน้องเอ ส่วนการที่พ่อแม่ของน้องเอจะนำตัวน้องเอย้ายไปเรียนที่อื่นนั้น ตนขอให้น้องเอเรียนที่โรงเรียนนี้ต่อไป โดยตนจะดูแลอย่างดีเหมือนกับลูกๆ นักเรียนทุกคน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ซึ่งพ่อแม่น้องเอรับทราบเข้าใจกันแล้ว
ส่วนครู ภ นั้น ตนได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบสวนว่าได้ทำการสอบสวนครู ภ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะสั่งลงโทษว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และจะไม่ให้ครู ภ ทำหน้าที่ครูที่ปรึกษาอยู่ที่ห้องเรียนเดิม จะสั่งย้ายครู ภ ให้ไปทำหน้าที่ครูที่ปรึกษาประจำห้องเรียนอื่น เพื่อไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดูแลน้องเออีกต่อไป
สำหรับทางด้านคดีความนั้น เมื่อพ่อแม่ของน้องเอพร้อมจะมาทำการถอนแจ้งความ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ประสานงานกับทุกฝ่าย และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวในตอนท้าย
