กาฬสินธุ์-ป้าวัย 53 ปีชาวกาฬสินธุ์สุดช้ำถูกโจรขึ้นบ้านหลายครั้งขโมยข้าวเปลือกไปกว่า 50 กระสอบ ล่าสุดถูกไหม้บ้านซ้ำอีก วอดทั้งหลัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดไฟฟ้าลัดวงจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สรวิศ สินนา สว.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหมบ้านประชาชน ซึ่งอยู่บ้านตรงข้างลานมันทวีทรัพย์ บ้านนาสาร ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.หนองกุงศรี และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ ก่อนออกตรวจสอบเหตุพร้อมด้วย ร.ต.ต.วีระ ภูทองนาค นายกเทศมนตรีตำบลหนองกุงศรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลหนองกุงศรี ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 9 บ้านนาสาร หมู่ที่ 6 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี ลักษณะบ้าน 48 ต้นเป็นบ้านไม้สองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ไม่มีบุคคลอยู่อาศัยพบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวบ้านและสิ่งของภายในบ้านอย่างรุนแรง เปลวเพลิงยังลุกไหม้สายไฟฟ้าและสายส่งสัญญาณโทรศัพท์ที่อยู่บริเวณหน้าบ้านอีกด้วย เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหนองกุงศรี และรถดับเพลิงขององค์ปกครองส่วนท้องถึงใกล้เคียงจำนวน 6 คัน เพื่อระงับเพลิงที่ลุกไหม้ โดยมี ร.ต.ต.วีระ ภูทองนาค นายกเทศมนตรีตำบลหนองกุงศรี เป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ดังกล่าว ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
นางวงเดือน ศิลาพัฒน์ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุกล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่บ้านคำศรี ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากไปดูแลแม่ที่ป่วยตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ตลอด ระหว่างที่ไปพักอาศัยอยู่บ้านคำศรี ตนได้เดินทางมาดูทรัพย์สินภายในบ้านหลังนี้ในบางครั้ง
ซึ่งพบทรัพย์สินหลายชิ้นทยอยหายไปจากบ้าน เช่น ข้าวเปลือก 50 กระสอบ ที่เก็บไว้กิน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้พบมีรอยโจรงัดบ้านอยู่บ่อยครั้ง
แต่ตนก็ไม่ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะไม่มีเวลาและต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังได้รับแจ้งว่าเกิดไฟไหมบ้านหลังนี้ รู้สึกตกใจจึงรีบเดินทางจากมาตรวจสอบพบเป็นบ้านของตนจริง รู้สึกใจเสียเป็นอย่างมาก
ร.ต.ต.วีระ ภูทองนาค นายกเทศมนตรีตำบลหนองกุงศรี กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากประชาชนว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านนาสาร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลหนองกุงศรี เข้าตรวจสอบและระงับเพลิงแต่พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงจึงประสานหน่วยดับเพลิงของเทศบาลและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.) ในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี ระดมกำลังเข้าดับเพลิงแต่ไม่สามารถระงับเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงได้ เพราะบ้านหลังที่เกิดเหตุมีสภาพไม้เก่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องแบ่งกำลังเพื่อสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปไหม้บ้านประชาชนที่อยู่ข้างเคียงได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้อาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
