อุดรธานี - 17 พ.ย.นี้เผาศพทนายมรดกเลือด ภรรยาร้องขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตายในศาลกับใครอีก ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่เผยเคยเตือนว่าความคดีมรดกให้ระวังตัวเพราะมีคนได้และคนเสีย แต่เจ้าตัวบอกถ้าจะเกิดคงเกิดนานแล้ว สุดท้ายต้องแลกด้วยชีวิต
วันนี้ (14 พ.ย. 62) ที่ศาลาวัดป่ามัชฌิมวงษ์รัตนาราม บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องพิจารณาคดีศาลจันทบุรี ได้มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วยกันจัดสถานที่เตรียมสวดพระอภิธรรมค่ำนี้เป็นคืนแรก โดยมีนายสาคร สุขรมย์ อายุ 75 ปี บิดา และนางธนินท์ธร ผัสดี อายุ 51 ปี ภรรยา และญาติเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ญาติจะมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรม 3 วัน และจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนนี้
นางธนินท์ธร ผัสดี ภรรยา เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะมาเกิดกับครอบครัว ตนกับนายวิจัยแต่งงานอยู่กินกันมา 11 ปี ไม่มีบุตร นายวิจัยเป็นคนตั้งใจทำงาน และเป็นคนดีเป็นคนไม่ค่อยพูด “ขอให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และก็ขอให้สถานที่ราชการหรือว่าหน่วยงานต่างๆ มีการป้องกันให้มากกว่านี้ สังคมทุกวันนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ เราไม่รู้ว่าคนไหนต้องการชนะหรือไม่ชนะในคดีเราก็ไม่รู้”
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ศรีโบราณ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงแหว อ.กุมภวาปี เล่าว่า ตนกับทนายวิจัยเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกัน เรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ลักษณะนิสัยของเขาเป็นคนใจเย็น ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาไม่เคยมีเรื่องชกต่อย สุราก็ไม่ดื่ม เป็นคนใจเย็นมาก จนคนในหมู่บ้านพูดกันว่าเป็นทนายที่ไม่ค่อยพูด
หลังเรียนจบแล้วนายวิจัยก็ทำอาชีพเป็นทนายอิสระ จากนั้นไปทำงานที่สำนักงานทนายความที่กรุงเทพฯ จนปัจจุบัน ตั้งแต่เรียนจบกระทั่งได้งานทำก็ยังติดต่อเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ประจำ ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนยังติดต่อให้ทนายวิจัยช่วยคดีความอยู่ เขาเป็นทนายความที่ไม่ค่อยพูดอะไรมาก ลูกความก็บอกว่าทนายคนนี้ต่างจากทนายคนอื่นๆ ที่ช่างพูดช่างเจรจา ส่วนฝีมือว่าความนั้นยอมรับว่าเก่ง และหากจะเปรียบเป็นมวยก็ “ไม่พูดมากแต่ต่อยเยอะ”
สำหรับคดีความที่นายวิจัยว่าความล่าสุดนี้ ตนเคยพูดเล่นกับเขาว่าระวังตัวหน่อยนะเรื่องคดีพวกนี้ ทนายวิจัย ก็ตอบว่าคดีนี้ทำมานานแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร หากจะมีก็น่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว
ส่วนตัวแล้วคิดว่าคดีนี้เป็นการต่อสู้กันเรื่องมรดก มีได้มีเสีย ถึงจะชนะอย่างถูกกฎหมายแต่คนที่สูญเสียก็เจ็บแค้นเช่นเดียวกัน เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเราต้องยอมรับตรงนั้น มันก็ควรจะเป็นไปตามกระบวนการของมัน ทนายก็ต่อสู้ด้วยหลักฐาน ศาลก็ตัดสินด้วยหลักฐาน เมื่อมันเป็นอย่างนั้นแล้วมันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ตัดสินคนแบบนี้มันก็ไม่ยุติธรรม
นายวิจัย สุขรมย์ มีพี่น้องร่วมกัน 4 คน เกิดที่บ้านเมืองพรึก ซึ่งเป็นชุมชนโบราณริมทะเลบัวแดง เรียนประถม โรงเรียนบ้านเมืองพรึก มัธยมต้น-ปลายโรงเรียนกุมภวาปี อ.กุมภวาปี นิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ประกอบอาชีพทนายความที่ สนง.บริหารงานกฎหมาย เคลอ กรุงเทพฯ สมรสกับนางธนินท์ธร ผัสดี อายุ 51 ปี ร่วมกันเปิดร้านอาหารเหนือ "อู่ข้าว อู่น้ำ" วิภาวดี 16 เมื่อ 12 พ.ย. 58 และปิดร้านไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ต้องการขาย