อุทัยธานี - แม่น้ำสะแกกรังลดฮวบลงอีก เริ่มเห็นเนินดินชัดหลายจุด เรือนแพนับร้อยชักลากแพ และกระชังปลาลงร่องน้ำลึก ชาวแพเร่งทำลูกบวบเพิ่ม ระบุหากเรือนแพเสียหายต้องซื้อไม้ไผ่ลำละ 60 บาท ใช้ถึง 300 ลำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุทัยธานี แจ้งถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง ที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานีในขณะนี้ มีระดับน้ำลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงบ้านน้ำตก และตลาดริมน้ำสะแกกรัง ไปยังวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ จนถึงบริเวณพญาไม้รีสอร์ท พบว่าน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว บางจุดเริ่มเห็นเป็นเนินดินมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ชุมชนชาวแพทั้งสองฝั่งริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรังนับร้อยหลังต้องเร่งชักลากเรือนแพและกระชังปลาลงร่องน้ำลึกเพื่อป้องกันลูกบวบไม้ไผ่ทุ่นลอยน้ำของแพได้รับความเสียหาย พร้อมเร่งช่วยกันนำไม้ไผ่ทำเป็นลูกบวบเพิ่ม เพื่อหนุนใต้แพให้ลอยเหนือน้ำ โดยชาวแพเผยว่า ต้องซื้อไม้ไผ่มาทำในราคาลำละ 60 บาท ซึ่งเรือนแพแต่ละหลังจะใช้ไม้ไผ่สูงสุดถึง 300 ลำ ประกอบกับปลากระชังที่เลี้ยงไว้โดยเฉพาะปลาแรดเริ่มทยอยตายลงวันละไม่ต่ำกว่า 10 ตัว
นายสมชาย สุราฤทธิ์ อายุ 54 ปี ผู้อาศัยเรือนแพ และเลี้ยงปลากระชังริมแม่น้ำสะแกกรัง กล่าวว่า ปีนี้น้ำลดไวมาก น้ำที่ขังบางช่วงก็เริ่มเน่าเสีย แพค้างแห้ง ปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้ก็เริ่มตาย ประกอบกับแพตนเองอยู่ตรงหน้าท่อด้วย จึงทำให้หนักกว่าคนอื่น ซึ่งน้ำที่ลดนั้นหากลากแพเข้าไม่ทันกันค้างแห้ง คานขาก็จะหักเสียหายต้องหาเงินซ่อม อยู่ประมาณหลักหมื่นอยู่ที่ว่าจะเสียหายมากน้อยแค่ไหน
ส่วนปลากระชังที่เลี้ยงกันตอนนี้ก็ทยอยตายกันวันละเป็น 10 ตัว โดยเฉพาะปลาแรด ซึ่งก็เริ่มตายมาตั้งแต่ก่อนเริ่มจะหนาวมีทยอยตายกันมาบ้าง ซึ่งก็ตายกันทั้งคลองแต่ปีนี้ตายก่อนหนาว และด้วยระยะเวลาการเลี้ยงปลาแรดนั้นใช้เวลาถึง 1 ปี 6 เดือน จึงจะสามารถจับขายได้ ทำให้ช่วงนี้สูญเสียรายได้กันวันละ 1,000-2,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากที่ฝนทิ้งยาวนานทำให้แหล่งต้นน้ำไม่มีน้ำฝนเติมเต็ม ส่งผลให้กลางน้ำ ปลายน้ำ ได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการเกษตร เพราะแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆ นั้นต้องสำรองน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค หล่อเลี้ยงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ไว้ใช้ในยามจำเป็นให้ได้มากที่สุดก่อนถึงฤดูฝนหน้า