xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่มสุดชีวิต! อดีตนักวิชาการมีชื่อ นำกระโดดขวางเครื่องจักรทุบลานห้างดังเชียงใหม่ไม่ให้คืนเขตทางหลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อดีตนักวิชาการมีชื่อควงรองนายกเทศบาลตำบลช้างเผือก นำชาวบ้านกระโดดขวาง จนท.ทางหลวง ลั่นห้ามทุบลานกิจกรรมห้างดังเชียงใหม่ที่ใช้ฟรีเขตทางหลวงตั้งหลายปี เพื่อส่งคืนพื้นที่ขยายถนนพร้อมปรับปรุงทำลานสาธารณะ


เช้าวันนี้ (13 พ.ย.) ที่บริเวณหน้าห้างสรรสินค้าเมญ่า แยกรินคำ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างที่คนงานของเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างจากแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 กำลังใช้เครื่องจักรทำการรื้อถอนลานกิจกรรมของห้างในส่วนที่เป็นเขตทางหลวงเพื่อปรับพื้นที่เตรียมส่งมอบให้เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงทางหลวงบริเวณสี่แยกดังกล่าว โดยที่ผ่านมาเกิดความล่าช้าเนื่องจากทางห้างฯ ไม่ยอมรื้อถอนส่งมอบพื้นที่คืนให้ อ้างว่ามีภาคประชาชนร้องขอ

ปรากฏว่า ดร.วสันต์ จอมภักดี ประธานคณะกรรมการประสานงานอนุรักษ์แม่ปิงและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายบุญธรรม ศรีคำมูล รองนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก และมวลชนจำนวนหนึ่งได้เข้าขัดขวางการการดำเนินการดังกล่าวที่นายเอกนรินทร์ จินทะวงค์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ควบคุมงานอยู่


ดร.วสันต์ เรียกร้องขอให้ชะลอการทุบ รื้อ ถอน ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเมญ่าไปก่อนจนกว่าถึงวันที่ 20 พ.ย. 2562 ที่จะมีการประชุมหารือ 3 ฝ่าย เพื่อไกล่เกลี่ยกันที่ห้องประชุมศาลากลาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน

ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ชี้แจงว่า การดำเนินการนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ที่กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ ไม่สามารถหยุดการดำเนินการได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งจากศาล ซึ่งระหว่างที่ยังมีการถกเถียงกันไม่ได้ข้อยุตินั้น นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่รับแจ้งเรื่องจากทางกลุ่มผู้คัดค้านการทุบลานดังกล่าว ได้เดินทางมาที่บริเวณจุดที่กำลังดำเนินการรื้อถอนด้วย


รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ช่วยเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยและร้องขอให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ชะลอการรื้อถอนไว้ก่อนเพื่อลดความตึงเครียด และรอการจัดประชุมหารือร่วมกันทุกฝ่ายในวันที่ 20 พ.ย. 62 เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

เบื้องต้นทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการดำเนินการนี้เป็นไปตามที่ทุกฝ่ายได้พิจารณาร่วมกันตลอดช่วงเวลากว่า 1 ปี ที่ผ่านมาจนได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ยอมชะลอการดำเนินการไว้ก่อนเนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาความขัดแย้งลุกลาม และรอการประชุมในวันที่ 20 พ.ย. 62

และเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 62 ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ได้นำตรวจสอบพื้นที่เขตทางหลวงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเมญ่า เพื่อเตรียมจะทำการรื้อถอนและส่งมอบพื้นที่คืนให้ทางหลวงเพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ พร้อมทั้งมีการชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการว่า ขณะที่ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เตรียมที่จะเข้าทำการรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าว


ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับการแจ้งประสานจากทางห้างฯ ว่าไม่สามารถทำการรื้อถอนและส่งมอบคืนพื้นที่ให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะมีกลุ่มคนและชุมชนใกล้เคียงที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวร้องขอให้ยุติตลอดและทางห้างไม่ต้องการจะมีปัญหาขัดแย้ง ดังนั้นจึงร้องขอให้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการให้โดยที่ทางห้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งทางห้างได้ทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 62 และได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจแล้วเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 62

โดยหลังจากนี้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เตรียมจะให้ผู้รับว่าจ้างเข้าดำเนินการรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าวและทำการส่งมอบพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินงานโครงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ตามแผนงานและการออกแบบที่ทำไว้ ซึ่งจะเริ่มทำการรื้อถอนโดยเร็วที่สุดและคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จสามารถทำการส่งมอบพื้นที่ได้ประมาณสิ้นเดือน พ.ย. 62 นี้ และจากนั้นจะใช้เวลาในการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ตามที่ออกแบบไว้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งการก่อสร้างตามรูปแบบนี้ จะมีการขยายเพิ่มผิวจราจรบริเวณแยกและจัดให้มีลานกิจกรรมบนที่ดินของกรมทางหลวง ซึ่งรูปแบบจะมีการปรับลดระดับความสูงของลานกิจกรรมบนที่ดินของกรมทางหลวงด้านหน้าห้างลงจากระดับทางเท้าของกรมทางหลวงอีก 15 เซนติเมตร โดยจะกินพื้นที่ลานกิจกรรม ประมาณ 7 เมตร ตลอดแนวความยาว 128 เมตร ด้านหน้าห้าง

ขณะเดียวกัน ย้ำว่าพื้นที่บริเวณที่มีการปรับปรุงยังคงลานกิจกรรมไว้เช่นเดิม และจะมีการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงามเพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะให้เป็นหน้าเป็นตาของเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน รวมทั้งมีเป้าหมายทำอย่างดีที่สุดให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาเขตทางหลวงด้วย ซึ่งตามการออกแบบนี้จะได้ช่องทางการจราจรเพิ่มขึ้นมา ด้วยการขยายช่องการจราจรเพิ่ม สำหรับรถที่เลี้ยวซ้ายมาจากถนนห้วยแก้วเข้าสู่ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชื่อมต่อเข้ากับถนนที่สร้างไว้อยู่แล้วหน้าชุมชนเจ็ดยอดและหมู่บ้านสวนสน ทำให้การสัญจรสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ขณะที่แผนในอนาคตนั้น จะมีการพัฒนาในระยะต่อไปด้วยการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อไปจนถึงวัดเจ็ดยอด ซึ่งจะต้องมีการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อจัดทำแผนแม่บทที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน นอกจากนี้มีแผนที่จะปรับปรุงระบบทางเดินข้ามบริเวณแยกรินคำให้มีความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น